ย่างก้าวอย่างสุขใจ
บางคราครั้งคนเราต้องการเดินไปให้ถึงจุดหมายด้วยกันแทบทุกคน
แต่การเดินเพียงเพื่อให้เราไปถึงปลายทางทำให้เราเป็นทุกข์ได้ง่าย
เมื่อรับกับการแปรเปลี่ยนแห่งสองข้างทางไม่เท่าทัน
และบางคราครั้งหากจุดหมายยังอีกไกลเมื่อคิดว่าเมื่อไรจะถึง
ก็ทำให้ยิ่งเครียดหรือฟุ้งซ่านได้ง่ายๆแม้นว่ากายเรายังพอไหว
แต่ใจสิกลับอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเอาดื้อๆ แต่ถึงกระนั้นจุดหมายจะยาวไกลสักปานใดไม่สำคัญ
หากเราท่านวางใจให้เป็น น้อมใจมาอยู่ในแต่ละย่างก้าวให้สุขกับการก้าวไปแต่ละย่าง
พยายามให้กายกับใจร่วมก้าวไปพร้อมๆกัน อย่าปล่อยให้กายอยู่ตรงนี้แต่ใจวิ่งไปคอยอยู่ข้างหน้า
หรือยังล้าหลังอยู่กับเส้นทางที่ผ่านมา บางครั้งคราใจที่คอยแต่จะถึงเป้าหมาย
หรืออ่อนล้ากับเส้นทางที่ผ่านมา นั่นคือตัวการที่เป็นการหล่อหลอมความทุกข์น้อยๆขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
แต่เมื่อคราใดกายกับใจอยู่ด้วยกันทุกก้าวย่าง
เมื่อนั้นการสัมผัสของเรากับทุกปรากฏการณ์แห่งสองข้างทาง
จะเป็นไปด้วยความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอย่างงดงาม
แต่ในสังคมปัจจุบันผู้คนมักออกเดินด้วยใจที่เหม่อลอย
หากใจไม่พะวงจะถึงเป้าหมายก็จะจมอยู่กับย่างก้าวที่ผ่านมา
ก็ไม่ต่างอะไรกับคนละเมอ
ดังนั้นทุกก้าวย่างจงย่างก้าวไปอย่างรู้สึกตัวทั่วพร้อมทั้งกายและใจ
เมื่อคราใดจิตติดหล่มอยู่กับก้าวที่ผ่านมาหรือวิ่งแซงหน้ากายไปอย่างสุดกู่
รู้ตัวคราใดก็พาใจกลับมาอยู่กับก้าวย่างที่กำลังย่างก้าวอยู่ชีวิตเราเปรียบดั่งนักเดินทาง
ดังนั้นสุขที่แท้ของเราจงพยายาม ..มีสุขกับสองข้างทาง..ให้จงได้....
ขอเพียงมีสติตระหนักรู้เท่าทันทุกอิริยาบถ
เมื่อนั้นเราก็จะเข้าสู่กระบวนการแห่งคำว่าการปฏิบัติธรรมอย่างงดงาม....
...ธรรมฐิต...