กาม ... ผลไม้รสเลิศ
กาม ... ผลไม้รสเลิศ
๐ พระผู้มีพระภาคเจ้า เปรียบกามไว้
ดุจผลไม้ รสเลิศไซร้ ไม่มีสอง
ดกเต็มต้น มิหล่นมา ให้ลิ้มลอง
บุรุษหนึ่ง แหงนมอง ใคร่ลิ้มรส
๐ มองโคนต้น หาไม่เห็น เป็นปริศนา
แต่ตัวข้าฯ ปีนไม้ได้ ใคร่กำหนด
จิตปรารถนา อยากชิม ใคร่ลิ้มรส
ให้ปรากฏ ดั่งที่แสดง ให้แจ้งใจ
๐ ปีนป่ายไม้ เสพทันใด ได้ชื่นจิต
อีกทั้งปลิด นำฝาก มิยากไซร้
บุรุษอีกหนึ่ง มาพบเห็น ให้เป็นไป
ปรารถนาได้ ลิ้มรสบ้าง กระจ่างจินต์
๐ ที่โคนต้น ไร้ร่วงหล่น สับสนจิต
จักปีนไป เพื่อปลิด ดั่งถวิล
ขึ้นไม่ได้ ครุ่นคิดไป ใคร่ได้กิน
ขวานในมือ ฟันให้สิ้น สมจินตนา
๐ บุรุษผู้ อยู่บนต้น จักทำไฉน
มิรีบลง เร็วไว ขืนชักช้า
อาจร่วงหล่น ต้องประสบ พบภยา
อาจถึงสิ้น ชีวา เพราะภัยพลัน
๐ อริยะ สาวก ผู้ฉลาด
ผู้เปรื่องปราด เห็นโทษา น่าคร้ามครั่น
พิจารณา ด้วยปัญญา ตามทรงธรรม์
จิตย่อมมั่น ตามพุทธพจน์ รจนา
๐ ว่ากามนี้ มีโทษ เป็นอย่างยิ่ง
จึงละทิ้ง อารมณ์อื่นไป ใฝ่อุเบกขา
ตั้งให้สถิต เพียงหนึ่งเดียว ในจินตนา
โลกามิส ที่เกิดมา ก็ดับพลัน ฯ
***********************
เจริญในธรรมเจ้าค่ะ
***********************