ปรุงแต่งสิ่งอื่นได้หลากหลาย ทำไมไม่ปรุงแต่งใจตัวเองให้เป็นสุข
ปรุงแต่งสิ่งอื่นได้หลากหลาย ทำไมไม่ปรุงแต่งใจตัวเองให้เป็นสุข
ความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งก็คือ การทำใจของตนเองให้ผ่องใสเบิกบานตลอดเวลา โดยมีสติเตือนใจตัวเองว่า ทำใจให้ร่าเริงผ่องใส
เรื่องใจของเรานี่ เราปรุงแต่งได้ ปรุงแต่งให้ดีก็ได้ ให้ร้ายก็ได้ ปรุงแต่งไม่ดีก็หมายความว่า ให้เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ขุ่นมัว เศร้าหมอง เดือดร้อนกระวนกระวาย โดยนึกถึงอะไรที่ไม่ได้หรือไม่ดีขึ้นมา เช่น นึกถึงความอยากที่จะไปโน่นไปนี่ ตอนนี้ยังไปไม่ได้ ทำไมยังไม่ถึงเวลาเสียที ฉันอยากจะเลิกงานไปเที่ยวที่โน่น ไปสนุกที่นั่น นี่ยังเหลืออีกตั้ง ๒ ชั่วโมง พอคิดอย่างนี้แล้วก็ปรุงแต่งไป ใจก็ฟุ้งซ่านกระวนกระวาย ตอนนี้ทำงานก็ไม่มีความสุข แล้วยังเกิดความเครียดด้วย
ทีนี้ในทางตรงข้ามเราปรุงแต่งจิตใจในทางที่ดี ให้ร่าเริงสนุกสนาน มองงานที่ทำอยู่ต่อหน้า ส่วนข้างหน้าไม่ต้องไปคิดห่วง เดี๋ยวถึงเวลาก็เลิกงานเองแหละ ครบ ๑๒ ชั่วโมง ก็ ๑๒ ชั่วโมง ๘ ชั่วโมงก็ ๘ ชั่วโมง ครบเมื่อไรก็เมื่อนั้น เวลามันยุติธรรมกับทุกคน มันไม่เคยเอาเปรียบใคร เราไปคิดเอาเองว่าเวลามันช้าเหลือเกิน ก็เพราะเราไปรอมัน ถ้าเราไม่รอมัน มันก็ไม่ช้า เราก็ทำงานของเราไป
ก็อย่างที่บอกแล้วว่า เวลามันให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนเสมอกัน แต่ถ้าตั้งใจผิด มันก็ทำให้เวลาช้าหรือเร็วตามแต่ว่าเราจะตั้งใจอย่างไร เพราะฉะนั้นเราก็ทำใจให้ถูก เรารู้อยู่แล้วว่าเวลามันเป็นอย่างนั้นของมันตามธรรมชาติ ก็ไม่ต้องไปเร่งรัดหรือขัดขวางมัน ให้เหมือนใจหรือให้ขัดใจตัวเราเอง แทนที่จะทำอย่างนั้น เราก็เอาใจมาอยู่กับงานของเรา ทำใจให้ร่าเริงกับงาน สนุกสนานกับงาน ปรุงแต่งใจให้ร่าเริงเบิกบาน
หนังสือ งานก็ได้ผล คนก็เป็นสุข
โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
หน้า ๒๑-๒๒