ดูดาวเป็นแล้วเอามายึดถือเป็นเครื่องบันดาลโชคชะตาของเรานี้คือ โง่


ที่กำหนดว่าเวลานั้นเวลานี้ฤกษ์งามยามดีจึงจะทำดี อย่างนี้ยิ่งโง่เข้าไปอีก แล้วยิ่งไม่เป็นการทำความดี และก็จะไม่เป็นของตนด้วย มันก็เป็นของคนอื่นของผีสางเทวดา

ถ้าเป็นพุทธบริษัทก็ถืออย่างพระพุทธเจ้าถือ ท่านสอนว่า เมื่อทำความดี เป็นเวลาที่ฤกษ์ดี โชคดี เมื่อเราทำความดีถูกต้องอยู่นั้นแหละเป็นเวลาที่ฤกษ์ดี ยามดี โชคดี พอทำความชั่วก็เป็นฤกษ์ร้าย ยามร้าย

โชคร้ายอย่างนี้ จริงหรือไม่จริง

ที่ไปนับดวงดาวอยู่บนสวรรค์เรียกว่าดวงดาวบันดาลให้เราไปตามอำนาจของดาวดาว นี่ก็คือคนโง่ชนิดหนึ่ง ไม่โง่มากถึงขนาดที่ว่าดูดาวก็ไม่เป็น แต่ว่าดูดาวเป็นแล้วเอามายึดถือเป็นเครื่องบันดาลโชคชะตาของเรานี้คือโง่ ส่วนหลังนี้มันโง่

พระพุทธ พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสไว้ตรงๆ ว่า ไอ้โชคดีหรือความดี โชคดีมันก็ผ่านคนโง่ไป เพราะว่าคนโง่มัวนั่งนับดวงดาวอยู่ แม้แต่ว่านั่งนับคำนวณดวงดาวอยู่ โชคดีความดีก็ยังผ่านไปเสีย เพราะมันคนละเรื่อง มันดีอยู่ที่ทำนี้ พอทำดีก็โชคดี อะไรดีๆหมด

กายวาจาใจดีก็คือโชคดี

ฉะนั้นจึงอยู่ที่ความถูกต้อง ระมัดระวังให้ดีที่สุดให้ถูกต้องที่สุดที่จะทำอะไรกัน

พุทธทาสภิกขุ

3,205







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย