บางเวลาเราต้องตามกระแส แต่บางเวลาเราก็ต้องทวนกระแส



"สมัยเรียนมัธยม อาตมาเคยประทับใจภาพวาดการ์ตูนประกอบคำพูดของเลโอ ตอลสตอยอยู่ภาพหนึ่ง เป็นภาพชายอ้วนพีแต่งตัวมีฐานะขี่หลังชายผอมแห้งยากจนสวมเสื้อผ้ารุ่งริ่งเดินข้ามลำน้ำ คนที่แบกอยู่หน้าตาแดงก่ำจากการหักโหมแรง มีคำบรรยายจากตอลสตอยว่า “ฉันขี่หลังชายผู้หนึ่ง รัดคอ บังคับให้เขาแบก แต่ฉันก็ยืนยันกับตัวเองและคนอื่นได้ว่าฉันเสียใจจริงๆ และยินดีแบ่งเบาภาระของเขาทุกวิธีที่ทำได้ เว้นแต่จะลงจากหลังของเขา”

หลายปีที่ผ่านมา อาตมาเห็นนักภาวนามากมายที่มีทัศนคติคล้ายกันนี้ หลายคนยินดีทำทุกอย่างให้จิตหลุดพ้นจากกิเลส ยกเว้นเรื่องที่จำเป็นจริงๆ เรื่องเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่าง ครูบาอาจารย์มักจะสอนว่าเมื่อจิตหมกมุ่นในกาม วิธีภาวนาที่ได้ผลมากที่สุด คือ การเจริญอสุภกรรมฐานเพื่อให้เห็นความไม่สวยไม่งามน่ารังเกียจของกาย แต่กระนั้นก็ยังมีนักปฏิบัติธรรมหลายคนที่เผชิญกับปัญหาเช่นนั้น แล้วยินดีจะลองทำทุกอย่างยกเว้นอสุภกรรมฐาน ในทำนองเดียวกัน นักปฏิบัติธรรมที่ติดหล่มอยู่ในความคิดด้านลบ มักยินดีจะลองทำทุกอย่างยกเว้นเมตตาภาวนา ยิ่งเรียนมาสูง ยิ่งสามารถหาเหตุหาผลมาบงการให้ตัวเองเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องเหมาะสม

บางเวลาเราต้องตามกระแส แต่บางเวลาเราก็ต้องทวนกระแส การรับมือกับกิเลสที่ฝังรากลึกมานานเป็นเวลาที่เราต้องทวนกระแสในสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสบายจนเคยชิน"

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร

3,184







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย