คติธรรม คำคม โดนใจ

ขอเชิญทุกท่านที่มีคติธรรม คำคม สอนใจ ได้เอื้อเฟื่อเผื่อแผ่แก่สาธารณชนทั่วไป เป็นข้อคิดสะกิดใจ ในการใช้ชีวิตประจำวันในสังคม



# เรื่อง อ่าน
 ผู้ไม่รู้เท่าทันตามเป็นจริง หลงยึดติดในสมมติ ถือมั่นตัวตนที่สมมติขึ้นเป็นจริงจัง ก็จะถูกความยึดติดถือมั่นนั้นแหละบีบคั้นกระทบกระแทกเอา ทำให้ได้รับความรู้สึกทุกข์เป็นอันมาก
 ยิ่งจัดการกับปัญหาด้วยความยึดอยากมากเท่าใด ความทุกข์ก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น แต่ถ้าจัดการด้วยปัญญาถูกตรงมากเท่าใด ปัญหาก็หมดไปเท่านั้น
 พอพ้นสมมติ อัตตาก็หมด พอเลิกยึด อัตตาก็หาย
 ความเอร็ดอร่อยสนุกสนานหวานชื่นที่คนปรารถนา กามอำนวยให้เพียงชั่วครู่ยามในเวลาที่เสพ แต่ความเจ็บปวดชอกช้ำที่คนไม่ต้องการ กามกลับประทับลงให้อย่างแน่นแฟ้น ติดตามฝังใจไปนานแสนนาน
 การคอยเพ่งมองแก่งแย่งผลประโยชน์กัน ก็ดี มักนำไปสู่ความผิดหวัง ความหวาดระแวง ความคับแค้น และคับข้องใจ ชนิดที่แห้งแล้ง ทำลายสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก สังคมที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แม้จะมีกามอย่างนับว่าค่อนข้างบริบูรณ์ คนย่อมไม่มีความสุขแท้จริง
 ปฏิบัติตรงไปตรงมาตามเหตุปัจจัย เพื่อจุดมุ่งหมายที่ดีงามอย่างแท้จริง
 ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครคาดหมายได้ ว่าที่ไหน เมื่อใด ใครจะทิ้งกาย ทอดลงบนผืนปฐพี แต่ที่มั่นใจว่าดีแน่ คือ การที่ได้จากโลกนี้ไป ในเวลาที่จิตใจอยู่กับบุญกุศลคือกรรมที่ดีๆ
 เราเกิดมาทำไม อยู่เพื่ออะไร อะไรคือสิ่งที่สูงสุดที่เราควรจะได้จากการเกิดเป็นมนุษย์ อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรจะให้ไว้กับโลกก่อนวันที่เราจำเป็นต้องจากไป
 ถ้าเราเป็นเรา เพราะเขาเป็นเขา เราก็ไม่ใช่เราสิ
 ขอให้เราปรารถนามงคลแห่งชีวิตอันยืนยาว โดยไม่ได้นับว่ากี่ปีหรือกี่สิบปี แต่นับด้วยขณะอันลํ้าค่าที่เรามีสติ เมตตาและปัญญา
 หยุดคิดปรุงแต่งได้เมื่อไร โลกเก่าที่น่าระอาก็หายไปทันที โลกใหม่ที่ผ่องใสปรากฏ
 บุญทำให้จิตสูงขึ้น บาปทำให้จิตต่ำลง ง่ายมาก เหมือนลิฟต์ขึ้นลิฟต์ลง
 อยู่ในลิฟต์ ผู้มีปัญญาย่อมวางกระเป๋าเดินทาง ภาวนาอยู่ก็เหมือนกัน ผู้มีปัญญาย่อมวางกระเป๋าอดีตและอนาคต
 พยายามตั้งสติรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น อย่าต่อสู้กับอารมณ์ พึงปล่อยอารมณ์นั้นให้ไหลผ่านเราไป แต่อย่าไหลไปกับมัน
 การหมั่นระลึกถึงความเปราะบางไม่แน่ไม่นอนของชีวิตเป็นวิธีการอันเลิศที่จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกรีบด่วนที่ส่งผลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม
 ยิ่งรักเพื่อนมนุษย์ ยิ่งรักคนอื่นได้มากเท่าใด ก็ยิ่งได้ความสุขจากการให้และการไม่ต้องเอามากขึ้นเท่านั้น
 กรรมไม่หมดไปด้วยการชดใช้กรรม แต่หมดกรรมด้วยการพัฒนากรรม คือปรับปรุงตัวให้ทำกรรมที่ดียิ่งขึ้นๆ
 เรื่องมฆมาณพนี้ สมัยก่อนจัดกันเป็นงานเทศน์สำคัญ เรียกว่าวัตรบท ๗ ของพระอินทร์ แล้วอย่างไรไปๆ มาๆ ถึงเวลานี้หายไป คนไทยเวลานี้แทบไม่มีใครรู้จัก ต้องฟื้นขึ้นมา
 ช่วยกันยกย่องให้เกียรติคนดี เพราะเป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์รักษาคุณธรรมของสังคมไว้ ดีกว่าจะมัวไปหลงใหลในการเซ่นสรวงสังเวย อันเป็นเรื่องไร้เหตุผล อันเป็นการกระทำที่มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ
 เมื่อตนเองเดือดร้อนวุ่นวายแล้ว ก็แผ่ความเดือดร้อนวุ่นวายนั้นไปให้แก่ผู้อื่นด้วย บุคคลที่มีปัญหาในตัวเอง ก็ย่อมเป็นเหตุสร้างปัญหาแก่ผู้อื่นขึ้นด้วย

« 1 2 3 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 »


จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย