"เจตนานั่นแหละเป็นตัวกรรม" (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
"เจตนานั่นแหละเป็นตัวกรรม"
" .. มีบางคนถามว่า "ถ้าทำบุญสุนทานไม่ได้อุทิศกรวดน้ำจะได้บุญไม่เต็มที่ บุญจะไม่ถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว" บางคนเชื่ออย่างนั้น "แล้วที่ทำบาปไม่เห็นได้อุทิศกรวดน้ำ แล้วทำไมมันได้บาปละ" ใครเอามาให้ หรือตนปรารถนาเอาเอง
"ไม่มีใครอยากได้หรอกบาป สร้างบาปสร้างกรรมพอที่จะไปตกนรกมันก็ตกนรกไปเอง" ไม่เห็นใครอุทิศอธิษฐานเอานรก แต่มันก็ตกนรกเพราะกรรมชั่วพาไป ทำไมมันจึงได้ "ที่ได้เพราะมันขึ้นกับเหตุ ถ้ามีเหตุคือการกระทำก็ได้เลย" ไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำอธิษฐาน
การกระทำทุกอย่างมันกลับคืนมาสู่จิตใจทันที "มันเริ่มมาแต่ตัวเจตนาคิดนึกที่แรกว่า จะทำบุญแบบใด หรือว่าจะฆ่าใครทำลายใคร" พอทำสำเร็จตามเจตนาแล้ว ผลมันก็จะสะท้อนย้อนกลับมาสู่เจตนาเดิมได้เลย "ไม่ต้องกรวดน้ำอุทิศเอาให้ยาก"
น้ำในที่นี้หมายความว่า "ให้ตั้งใจอุทิศนั้นแหละ คือน้ำใจนี้แหละความหมาย ไม่ได้หมายถึงน้ำทางนอก" การกรวดน้ำมันเป็นพิธีการเฉย ๆ แต่คนก็เชื่อผิดไปตาม ๆ กันเรื่อยมา "บางคนถ้าไม่ได้กรวดน้ำก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ได้ประเคนของให้พระก็จะใจไม่ดี"
ความจริง "ลักษณะของจิตและเรื่องเจตนานี่เป็นของลึกลับ" พอถึงเจตนาแล้วมันสำเร็จเลย "เพราะต้นเหตุมันอยู้ที่นั่น เจตนานั่นแหละเป็นตัวกรรม" พระพุทธเจ้าท่านสอนไว่อย่างนั้น
เจตนาคือ "ความคิดขึ้นมาแล้วถ้าคิดในทางที่ผิดมันก็ผิดไปตั้งแต่เจตนา นี่แหละตัวเจตนา จะเป็นบาปก็เหมือนกัน ไม่ต้องอุทิศกรวดน้ำก็มีผลเหมือนกัน" แต่นี่คนเรามาถือพิธีทางนอกเกินไป
"ไม่เขื่อให้มาประพฤติปฏิบัติจิตใจจนรู้ความเป็นจริงเสียก่อนลองดู" จึงจะรู้ตัวขึ้นมาว่า ประเพณีในการประพฤติปฏิบัติธรรมว่า จะทำรูปใดวิธีใด .. "
"วีระปฏิปทา มหาวีโร"
หลวงปู่ศรี มหาวีโร