"เป็นเสลดน้ำลาย ท่านคายทิ้งแล้ว" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
"เป็นเสลดน้ำลาย ท่านคายทิ้งแล้ว"
" .. "โลกธรรม ธรรมของโลก" ที่มันกระทบกระเทือนใจคนเรานั้น ได้แก่อะไร "ความสรรเสริญชอบใจ ความติเตียนนินทาไม่ชอบใจ" เป็นคู่หนึ่ง
"มีกาย มีใจก็มีความสุขไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่กระทบกระเทือนอะไรทางจิตใจก็ชอบ เวลามันทุกข์กาย เวลามันทุกข์ใจ เมื่อมันทุกข์ ทุกอย่างทุกประการประดังเข้ามา ที่นี้ก็ไม่ชอบละ" ชอบสุขแต่ไม่ชอบทุกข์ ทั้ง ๆ ที่โลกมันมีกันเป็นคู่อยู่อย่างนี้ "ท่านจึงให้เพ่งภาวนาดูจิตใจของตนเอง" อย่าไปมัวฟุ้งซ่านจากกายออกไป
จงให้เห็นว่า "กิเลสเหล่านี้เป็นของเลิกได้ละได้" พระพุทธเจ้า พระอรหันตาเจ้าทั้งหลาย "ท่านละทิ้งแล้ว เป็นเสมหะน้ำลาย ท่านถ่มทิ้ง เป็นเสลดท่านคายทิ้งแล้ว แต่เรายังเก็บเอามากินอีก" มันก็เป็นทุกข์อยู่อย่างนี้แหละ .. "
"พุทธาจารปูชา"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร