"พรหมวิหาร ๔" (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

 วิริยะ12  

.
 "พรหมวิหาร ๔"

คือ "ธรรมสำหรับเป็นที่อาศัยอยู่ของจิตใจที่ดี" มี ๔ ข้อ ดังต่อไปนี้

๑. "เมตตา ความรักที่จะให้เป็นสุข" ตรงกันข้ามกับความเกลียดที่จะให้เป็นทุกข์ "เมตตาเป็นเครื่องปลูกอัธยาศัย เอื้ออารี" ทำให้มีความหนักแน่นในอารมณ์ ไม่ร้อนวู่วาม เป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกเป็นมิตร ไม่เป็นศัตรู ไม่เบียดเบียนใคร แม้สัตว์เล็กเพียงไหนให้เดือดร้อนทรมาน ด้วยความเกลียด โกรธ หรือสนุกก็ตาม

๒. "กรุณา ความสงสารจะช่วยให้พ้นทุกข์" ตรงกันข้ามกับความเบียดเบียน "เป็นเครื่องปลูกอัธยาศัยเผึ่อแผ่เจือจาน" ช่วยผู้ที่ประสบทุกข์ยากต่าง ๆ กรุณานึ่เป็นพระคุณสำคัญข้อหนึ่ง ของพระพุทธเจัา เป็นพระคุณสำคัญข้อหนึ่งของพระมหากษัตริย์และเป็นคุณข้อสำคัญของท่านผู้มีคุณทั้งหลายมีมารดาบิดา เป็นต้น

๓. "มุทิตา ความพลอยยินดีในความได้ดีของผู้อื่น" ตรงกันข้ามกับความริษยาในความดีของเขา "เป็นเครื่องปลูกอัธยาศัย ส่งเสริมความดี ความสุข ความเจริญ ของกันและกัน"

๔. "อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง ในเวลาที่ควรวางใจ" เช่น ในเวลาที่ผู้อื่นถึงความวิบัติ ก็วางใจเป็นกลาง "ไม่ดีใจว่าศัตรูถึงความวิบัติ ไม่เสียใจว่าคนที่รักถึงความวิบัติ" ควรพิจารณาในทางกรรมว่า "ทุก ๆ คนมีกรรมเป็นของตน ต้องเป็นทายาทรับผลของกรรมที่ตนได้ทำไว้เอง" ความเพ่งเล็งถึงกรรมเป็นสำคัญดังนี้ จนวางใจลงในกรรมได้ ย่อมเป็นเหตุถอนความเพ่งเล็งบุคคลเป็นสำคัญ "นึ่แหละเรียกว่าอุเบกขา เป็นเหตุปลูกอัธยาศัย ให้เพ่งเล็งถึงความผิดถูกชั่วดีเป็นข้อสำคัญ ทำให้เป็นคนมีใจยุติธรรมในเรื่องทั่ว ๆ ไปด้วย"

ธรรม ๔ ข้อนี้ "ควรอบรมให้มีในจิตใจด้วยวิธีคิดแผ่ใจ ประกอบด้วยเมตตาเป็นต้น ออกไปในบุคคลและในสัตว์ทั้งหลาย โดยเจาะจงและโดยไม่เจาะจง คือทั่วไป" เมึ่อหัดคิดอยู่บ่อย ๆ จิตใจก็จะอยู่กับธรรมเหล่านี้บ่อยเข้าแทน ความเกลียดโกรธเป็นคนที่ตรงกันข้าม จนถึงเป็นอัธยาศัยขึ้น ก็จะมีความสุุุุขมาก .. "

"คำสอนพระอาจารย์"
สมเด็จพระญาณสังวรฯ

 

5,862







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย