"ความมักโกรธย่อมอยู่เป็นทุกข์" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"ความมักโกรธย่อมอยู่เป็นทุกข์"
" .. ความโกรธจะเกิดได้ "เมื่อต้องพบกับความไม่ได้ดังใจ คนทำไม่ถูกใจ พูดไม่ถูกใจ" ทั้งที่ไม่สมควรจะทำเช่นนั้น ไม่สมควรจะพูดเช่นนั้น เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ "ให้มีเมตตามาเป็นเครื่องช่วย" พร้อมกับให้ใช้เหตุผลที่ถูกที่เป็นจริง
คือคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน "เกิดด้วยกรรมที่ต่างกัน" จะให้ทุกคนคิด พูด ทำ ให้เหมือนใจเราได้อย่างไร "บางคนเกิดในเครื่องแวดล้อมที่ดีงาม บางคนเกิดในเครื่องแวดล้อมที่ต่ำต้อย" การอบรมไม่เสมอกัน กิริยาวาจาแตกต่างกัน "จะไปหวังให้ได้ดังใจเสมอไป ก็เท่ากับขาดเหตุผลอย่างยิ่ง ไม่ฉลาดอย่างยิ่ง"
เพราะไม่มีทางจะเป็นไปได้ "มีแต่จะทำให้จิตใจของเราเศร้าหมอง" ไม่เป็นสุข ขาดเมตตาแม้แต่ต่อตัวเองและต่อเพื่อนร่วมทุกข์ ที่คิดพูดทำไม่ได้ดังใจเราด้วย "ไม่เมตตาตัวเองนั้นตรงที่สุด" เพราะพระพุทธศาสนาสุภาษิตบทหนึ่งก็ยังกล่าวว่า "ความมักโกรธย่อมอยู่เป็นทุกข์" ทำตัวให้เป็นทุกข์ด้วยการไม่ลดละความโกรธ ก็คือการไม่เมตตาตนเองก่อนไม่เมตตาใครอื่น .. "
"แสงส่องใจ" ๓ ตุลาคม ๒๕๔๕
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13564