"ภัยในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัว" (หลวงปู่ลี กุศลธโร)
.
"ภัยในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัว"
" .. "การเวียนตายเวียนเกิดในวัฏสงสาร ที่จะตั้งเที่ยงแท้แน่นอนยั่งยืนนั้นมิได้มีเลย" ย่อมจะต้องท่องเที่ยวไปเกิดในโลกดีบ้างชั่วบ้าง สุขบ้างทุกข์บ้างปะปนกันไปอยู่เช่นนี้ "ถ้าไปเกิดในโลกที่ดีมีความสุข" เช่น เทวโลก พรหมโลกก็นับว่าเป็นการดี แต่ทีนี้ "ถ้าพลาดพลั้งลงไปเกิดในโลกชั่ว" เช่นอบายภูมิแล้ว "ย่อมเป็นการยากนักหนาที่จะยกตนขึ้นมาจากโลกชั้นตํ่าได้" ต้องเสวยทุกขเวทนาไปแสนนาน
อีกประการหนึ่ง "การท่องเที่ยวในวัฏสงสารนี้ยังเป็นการท่องเที่ยวไปไม่มีวันสิ้นสุดอีกด้วย" ข้อนี้สิร้ายมาก ลองหลับตานึกวาดภาพดูเถิดว่า "ตัวเรานี้ต้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดครั้งใด เป็นต้องตายลงไปครั้งนั้น" ซํ้าซากอยู่อย่างนี้ ไม่มีวันหยุดยั้ง
"ตัวเรานี่แหละเกิดตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่รู้ตัวมาหลงลืมเสียเพราะชาติภพปิดบังไว้เท่านั้นเอง" และอีกไม่นานตัวเราก็จะตายแล้วใช่ไหมเล่า ตายแล้วก็เกิดอีก แต่เฝ้าตายเฝ้าเกิดอยู่อย่างนี้ ตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุดลงได้ ด้วยเหตุนี้ "วัฏสงสารนั้นจึงเป็นภัยที่น่ากลัวกว่าสิ่งที่น่ากลัวทั้งหลายในโลก" คราวนี้มีปัญหาว่า "ทำอย่างไรจึงจะออกจากวัฏสงสาร ซี่งมีภัยอันใหญ่หลวงนี้เสียได้"
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระองค์ผู้ทรงสัพพัญณุตญาณ" ซึ่งทรงทราบซัดทุกสิ่งทุกประการ ได้ทรงชี้ลงไปอย่างเด็ดขาดว่า "การที่จะทำตนให้พ้นจากวัฏสงสารได้นั้น ต้องถึงซึ่งพระนิพพาน ได้นิพพานสมบัติเมื่อใด เมื่อนั้นจึงจะพ้นภัยในวัฏสงสารนี้ได้" .. "
"ธรรมลี เศรษฐีธรรม"
หลวงปู่ลี กุศลธโร