"สัจจะ ความจริงใจ ต่อ การปฏิบัติธรรม" (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
ตอนที่ยังไม่ได้บวช ก็ไปสูบบุหรี่ทำไมถึงสูบบุหรี่ ตอนเป็นเด็กตัวเล็กๆ พ่อก็สูบบุหรี่ไปนา ไปทำนา แล้วพ่อก็ใช้ไปต่อบุหรี่ ต่อแล้วก็ถือมา พ่อไปสูบไฟมันก็ดับ ไปต่อใหม่เอาถือมามันก็ดับอีก เอางั้นมึงก็สูบสิ (พ่อบอกกับหลวงปู่) พ่อก็สอนให้สูบ พอสูบไฟมันก็แดงขึ้นมันก็ติด หลายครั้งหลายหนก็ติดยา ก็เลยสูบยาเป็นสูบบุหรี่เป็น ทีนี้พอมาบวชได้ขันดอกไม้ แต่งขัน 5 เทียน 5 คู่ดอกไม้ 5 คู่ไปกราบพระประธาน “ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิฐานจะไม่สูบบุหรี่ ถ้าข้าพเจ้าสูบบุหรี่เมื่อไหร่ให้ตกนรกอเวจี” สาบานต่อพระพุทธเจ้า พอสาบานแล้ว อีกสองวันฝันนะ ฝันว่าได้สูบบุหรี่ (หัวเราะ) ในฝันสูบบุหรี่หมดไปครึ่งมวนแล้ว รู้สึกว่าตัวเองยืนสูบบุหรี่อยู่ ห่มผ้าเหลืองอยู่ โอ๊ย…! ผิดสัจจะทีนี้ ตั้งสัจจะต่อพระพุทธเจ้า โอ๊ย…กูตกนรกแล้วว่ะ เสียใจว่าตัวเองจะตกนรก มันจะตกกี่หมื่นปีว่ะ เมื่อไหร่กูจะได้มาเกิดอีก เมื่อไหร่กูจะได้มารักษาศีลอีก เสียเวลาอย่างนั้น อย่างนี้ คิดไป.. ก็ร้องไห้อยู่ด้วยความเสียใจ ร้องไห้อยู่อย่างนั้นล่ะ ตี 4 มันก็คงนอนอิ่มเนาะ ทั้งฝันก็อิ่มเวลาตื่น ตี 4 มันรู้สึกตัว โอ๋..กูฝันนี่ ก็ดีใจขึ้นมาผ้าจีวรจนเปียกนูนล่ะ (หัวเราะ) เสียใจว่าตัวเองจะตกนรก แล้วก็ไปรักษาอุโบสถศีล งดการกินอาหาร ในเวลาวิกาลก็ฝันว่าไปกินข้าวเสียตอนบ่ายอีกล่ะ กินใกล้จะหมดแล้วมาเห็นตัวเองห่มผ้าเหลือง กะร้องไห้อยู่นั้นเสียใจ ตี 4 ตื่นมาเหมือนเดิม ลืมตาขึ้นโอ๋ ฝัน ก็ดีใจคืนมา “ศีลแต่ละข้อนี่ ฝัน ฝันทุกข้อเลย มันด้วยสัจจะของเราเรามีความจริงใจ พอฟันไปเรื่อยๆ เราก็ตั้งใจภาวนาไปเรื่อย พอจิตเข้าถึงธรรมแล้ว ไม่ได้ฝันอย่างนั้น ไม่ได้ฝันไปทางเรื่องผิดศีลผิดธรรม เป็นอัตโนมัติไปเลย” ธรรมเป็นปรมัตขึ้นมา มันเป็นธรรมชาติของจิตที่มันคุ้นเคย หากเรามีความเชื่อมั่นในธรรมมันก็มีความรู้สึก ว่าตัวเองเป็นพระเป็นเณร ก็ไม่ได้ฝันร้ายว่าจะไปทำผิดศีลผิดธรรม แม้แต่ความฝันนะ ถ้าจิตของเรายึดมั่นถือมัน มันจะไม่ฝันการยึดมั่นถือมั่น มันจะไม่ฝันเลย ฝันแต่ใหม่ๆ นิแหละ ใหม่ที่กำลังฝึกกำลังจะเร่งภาวนาอยู่เนี้ย มันจะไปผิดศีลข้อนั้น ผิดศีลข้อนี้ แล้วก็เสียใจ และก็ตั้งสัจจะไม่สูบบุหรี่ พอไปตั้งสัจจะ เหมือนมันอยากสูบอยู่นะ ก็หลงๆ อยู่ ก็ว่าให้เดินมาหาบุหรี่นี้ ถ้ามันมาหาถึงจะสูบมัน ถ้ามันมาไม่ได้ก็ไม่ต้องสูบ มันก็ไม่มาแล้วเนาะ บุหรี่มันไม่มีขาเดิน (หัวเราะ) มีแต่เรานี้บ้าอยู่คนเดียวเดินไปหามัน ผลสุดท้ายทุกอย่างเดินเราไม่เดินไปหามัน มันก็ไม่เดินมาหาเรา ก็เลยไม่ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนั้น นั้นแหละมันก็เลยกลายเป็น ศัตรูกัน นี่ด้วยสัจจะทำอะไรก็ทำให้จริงใจ ถ้าเราจะรักษาศีลด้วยความจริงใจ รักษาด้วยความจริงใจ มีความยึดมั่นถือมั่น กลัวหิริโอตัปปะ จริงๆ นี้ธรรมะที่เรียกว่า หิริโอตัปปะ มีความเกรงกลัวต่อบาป เกิดขึ้นในใจจริงๆ มีความเชื่อมั่นแล้วมั่นก็เกิดขึ้นในใจ เกิดความกลัว “ศีลทุกข้อเมื่อมันบริสุทธิ์ เราไปภาวนา จิตก็บริสุทธิ์ง่ายได้รับความสงบ การภาวนาจะต้องอาศัยความบริสุทธิ์เข้ามาช่วย”
เทศน์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2556
ณ ลานธรรมแม่กลอง
ที่มา : https://www.facebook.com/larndhammaekrong