"กรรมที่เคยทำกับงู" (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
เมื่อสองปีที่ผ่านมา ตาด้านนี้ติดเชื้อ (ด้านซ้าย) เขาชวนไปเที่ยว(นิมนต์ให้ไปโปรด)เกาะลันตาโอ๊ย...เกาะลันตาเราก็ไม่เคยรู้จักเขาก็ชวนไปลูกศิษย์ก็ไปหลายคน ไปที่เกาะลันตาไปพักบ้านฝรั่ง แฟนฝรั่งเขามาจากนูนออสเตรเลีย มาก็นิมนต์ไป ทีนี้เขาก็พาไปสงฆ์น้ำไปอาบน้ำทะเลน้ำทะเล น้ำทะเลโดนตามันก็เคยโดนอยู่หรอก แต่ถ้าวันนั้นมันแสบตาเป็นพิเศษ โอ๊ยมันแสบพอกลับมาถึงมูลนิธิเป็นวันที่สี่ กว่าจะมาถึงกรุงเทพ ถึงกรุงเทพแล้วจะขึ้นอุดรทีนี้ รับกิจนิมนต์ไว้ที่อุดร ว่าจะไปอุดรคุณโชติก็เลยถามว่า หลวงพ่อตาทำไมเป็นอย่างนั้นเข้าโรงพยาบาลก่อนโรงพยาบาลนี้ เป็นโรงพยาบาลชั้นหนึ่งของประเทศไทยว่างั้นมีแต่แขกต่างประเทศรักษาตาหายเสียก่อนเย็นนี้ค่อยไป ขับรถไปก็ไปแวะเข้ารักษาหมอก็เปิดตาหยอดตาล้างตาให้ก็ปิดตาให้ หมอก็บอกว่าโอ๊ยไม่เป็นไรตายังไม่ติดเชื้อหมอว่า... วันหลังมาพอเช้ามาหมอนัดอยู่สามวัน พอวันที่สองมาก็ไปไปแล้วเปิดตาล้างตาดีไม่ติดเชื้อ กลับมามูลนิธิโอ๊ยเหมือนกับไฟเผาตาทีนี้ เหมือนกับเอาถ่ายไฟมาวางตาเนี้ย เอ๊ะ! หมอบอกว่าหายไม่ติดเชื้อทำไมหนักขึ้นทุกวัน วันที่สามไปอีกวันสุดท้าย ดีๆหลวงพ่อตาไม่ติดเชื้อ
หลวงปู่ : หมอๆ หลวงปู่จับแขนหมอและกำลังจะพูดว่า ตาอาตมามันจะบอดแล้วนะ
หมอ : ผมบอกว่าหายมันก็ต้องหายสิต้องเชื่อหมอ
หลวงปู่ : เออหายก็หาย แต่…กูหายคือกูไม่กลับมาหาเมิงอีกว่ะนึกในใจ (ท่านพูดแล้วก็หัวเราะ) กูหายแน่ วันนี้ (หลวงปู่หัวเราะ)
พอกลับมาถึงมูลนิธิก็เลยโทรไปหาอาจารย์หมอสวัสดิ์ที่ไทยจักษุ หมอสวัสดิ์ก็ให้ภรรยากับหลานชายมารับไป โห…ติดเชื้ออย่างรุนแรง หมอไหนสั่งให้ปิด เอ๊า…คนละโรคอีกแล้วบาดนิ (ท่านพูดแล้วก็หัวเราะ) ตามันเป็นหนองหมด ขาวหมดเลย ตาดำเป็นตาขาวเป็นหนองหมดเลย หมอสวัสดิ์ห้ามไม่ให้ปิดตาหยอดตาทุก 30 นาที ยาสามสี่ชุดหยอดเรียงลำดับอยู่อย่างนั้น โอ๊ย...คนที่มาเยี่ยมอยู่มูลนิธิก็มาเยี่ยมเยอะที่นี้ ขนาดที่คนมาเยี่ยมนี้มันเหมือนกับกองหินกองทรายวิ่งอยู่ในนี้(ในตาท่าน) เหมือนกับถ่ายไฟแดงๆอยู่ในนี้ทั้งหมดมันทรมาน หนีไปสวนทิพย์พอไปสวนทิพย์ มันปวดมาก ก็ภาวนา ภาวนาอยู่ที่สวนทิพย์กำหนดภาวนาไปโอ๊ยมันแดงทะลุท้ายทอย พอมันทะลุท้ายทอยแสงมันพุ่งขึ้นบนดาดฟ้าเนี้ย (ท่านพูดแล้วชี้ขึ้นตรงด้านหน้าผากเพราะท่านเห็นแสงในขณะที่หลับตาอยู่) พอมันพุ่งขึ้นนี้มันสว่าง พอมันสว่างก็สงสัยว่าใครมาเปิดไฟไว้ พระลูกศิษย์หรือเปล่า เราว่าจะพักจริงๆนอนกำหนดภาวนา พอลืมตาขึ้น มึดตึบ! ลืมตาขึ้นมันมึด โอ..ไม่ใช่เขาเปิดไฟหลับตาลงใหม่ ภาวนาไป ภาวนาไป เห็นงูโผ่หัวขึ้นมาจ้องตาใส่เลยไป นึกถึงตอนอายุ 13 ปี ไปเลี้ยงควายเอาปืนยิงงูตาย งูตัวนั้นเลยดิ้นพวดๆ อยู่กลางทุ่งนา นี้มันเป็นคันนาอยู่เนี้ย มันก็ไม่มีหญ้ามีแต่ดินเป็นรูหนูอยู่ตรงนั้นงูมันมามันโผ่หัวออกมา เราเดินตามควายไปหัวมันก็โผ่ออกมา ปรกติเราก็ยิงไม่แม่นหรอก ไม่เคยยิงสัตว์ถูกแม้แต่ครั้งเดียวแต่วันนั้นทำไมมันบังเอินยิงแม่นเหลือเกินว่ะ! งูมันอยู่ตรงหน้านี้ เราก็เอียงๆไปข้างๆ ถ้ายิงไม่ถูกมันจะพุ่งออกมาเราก็จะวิ่งไปอีกทาง ก็เลยใส่มันด้านซ้ายนี้แหละปั้งเข้าเลย หัวนี้เปลียวขาดตานี้ขาดออกไปมันก็พุ่งออกไปกลางแปลงนาดิ้นบิดเบี้ยวเลย ยืนดูเป็นสองชั่วโมงมันถึงตาย พอมันตายมันเหยียดออกท้องมันใหญ่กลม เรียกเพื่อนมา ก็เอามาลากกันไปผ่าท้องดู ไข่อยู่ในนั้น 12 ฟอง โห….งูตัวเนี้ยมันจ้องเราตาเนี้ยจองเลยมาซัดเอาปีทีแล้วเกือบตาบอด กรรมในปัจจุบันเนี้ยนะ พอเห็นอย่างนั้นเราก็น้ำตาไหลสามแช่งตัวเองอยู่อย่างนั้นให้มันมากกว่านี้ไปสักร้อยเท่าพันเท่านิ มันไปทำเขาทำไม ด่าว่าตัวเอง งูมันจ้องอยู่ตรงนั้นในขณะที่เราด่าตัวเองอยู่ งูก็เริ่มหลับตาพริบๆแล้วหัวมันตกลงตกลง ครั้งแรกมันโผ่มันจ้องๆ อย่างนี้เลย พอเราสาบแช่งตัวเองว่าไปทำเขาทำไมว่าอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ ให้เจอสักร้อยเท่าพันเท่านู้นว่าตัวเอง งูตัวนั้นก็เริ่มหลับตาพริบๆ หัวก็ลดลงๆคล้ายกับว่ามันร้องไห้เหมือนกันนั้นละพอเช้ามาก็บอกลูกศิษย์ทำสังฆทานไปสองกะละมังใหญ่ เอาไปถวายหลวงปู่บุญฤิทธิ์ ให้หลวงปู่พิจารณาให้ แล้วก็ให้หลวงปู่คำพอง องค์หนึ่งก็เล่าเรื่องให้ท่านฟังก็นั่งสมาธิ หลวงปู่ท่านก็นิ่งอยู่ประมาณ 40 นาที ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร พอได้ประมาณ 40 นาที ท่านก็พูดขึ้นว่า “ขออนุโมทนาด้วย”หลวงปู่ท่านว่า แล้วก็สาธุ แล้วก็ไปหาอาจารย์คำพองที่วัดไร่ม่วงเมื่อก่อนก็เคยไปพักที่เมืองเลย ก็ไปพักที่นั้นบ่อย แต่ก่อนก็เคยไปพักอยู่กับหลวงปู่ซามาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ อาจารย์คำพองก็ไปอยู่กับหลวงปู่ซามา หลวงปู่ก็ไปอยู่กับหลวงปู่อ่อน ก็ให้ท่านเมตตาให้ พอกลับขึ้นมามานั่งสมาธิภาวนารวมจิตก็เห็นงูอีกก็หลับตาพริบๆเหมือนกับมันร้องไห้ พอเช้ามาตาเราก็ลืมได้ ตาก็ดีขึ้นๆ หมอก็บอกว่าจะต้องผาตัดอีกทีหนึ่ง เพราะเป็นแผลอีกที่กลางตา จะต้องผาตัดแล้วต้องใส่เลนส์ตา พอมาเดือนหนึ่งแผลขยับลงมาใต้ตาดำ ติดตาขาว หมอจึงถามว่า เอ้าหลวงพ่อทำไมมันเลื่อนลงมาได้ เอาก็ไม่รู้แล้วหมอ พอมาตรวจอีกสองอาทิตย์ต่อมาอีก เอ้าหลวงพ่อมันหายไปแล้วแผลอ่ะ หมอสวัสดิ์ถาม โอ๊ยคงจะไม่ได้ลอกหรอกตาอ่ะ ก็เลยไม่ได้ลอกทุกวันนี้ก็เลยไม่มีแผล นั้นแหละกรรมมันหมดนี้มาจากอะไรมาจากสมาธิ นิเราจะปลดกรรมในปัจจุบันก็ดี ในอนาคตก็ดี เราต้องอาศัยการปฏิบัติธรรมของเรา อย่างที่เรามาทำวันนี้ละ มาทำบุญ,ให้ทาน มีการให้ทาน มีการรักษาศึล มีการฟังธรรมะ เอาธรรมะนี้ไปปฏิบัติไปภาวนา ชำระล้างกรรมของตนเองทีมีอยู่ทุกคนไม่มีหรอกที่ใครอยากจะมีกรรมแต่มันเผลอทำมาก่อนแล้วความหลงของคนเราหลงในความโลภความอยากมันเกิดขึ้นแล้วยิ่งเป็นคนต่างจังหวัดนะคนบ้านนอกชาวไร่ชาวนาจำเป็นที่สุดจะต้องรักษาตนเอง เอาชีวิตสัตว์อื่นมาเป็นเนื้อหนังของตนเอง ปลาตัวเล็กเอาหมดเลย กุ้งตัวเล็กๆก็เอา เอาแล้วเอาไม่พอมีเยอะเอาเยอะมีมากเอาหมด แม…..ความโลภของคนเห็นไหม เอามาแล้วใส่ถังมาบ้างใส่คองมาบ้างแล้วแต่จะใส่มา มันจะร้อนมันจะทรมานก็ชั่งมันขอแต่ใส่มันมาเป็นพอ มาถึงจัดการเลยตัวไหนไม่ตายก็เลือกออกๆ พอเลือกแล้วก็ใส่น้ำไว้ ก็ไปขังตาย มันเจ็บปวดแสบขนาดไหนจนกว่ามันจะได้มาเป็นอาหารเรานี้ แล้วตรงนี้เรามาพิจารณาดูสิ ว่าเขาที่แสบๆอยู่นั้นแล้วเอาเกลือไปใส่จะทรมานขนาดไหน
เทศน์ เรื่องของกรรมที่ได้ทำกับงู
หลวงปู่ไม อินทสิริ
เทศน์ที่ : ลานธรรมแม่กลอง 29 มิ.ย. 2557
ที่มา : https://www.facebook.com/larndhammaekrong