น เว ยาจนฺติ สปฺปณฺณา คนมีปัญญาย่อมไม่ขอเลย
น เว ยาจนฺติ สปฺปณฺณา คนมีปัญญาย่อมไม่ขอเลย
พุทธศาสนสุภาษิต
/สัตตกนิบาตชาดก/
๏ พุทธสุภาษิต: น เว ยาจนฺติ สปฺปณฺณา
พุทธสุภาษิตบทนี้มาจากพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท หมวดบัณฑิตวรรค (ว่าด้วยเรื่องบัณฑิต) มีความหมายโดยตรงว่า "คนมีปัญญาย่อมไม่ขอเลย" หรืออาจขยายความได้ว่า "ผู้มีปัญญาจะไม่ปรารถนาหรือเรียกร้องสิ่งใดๆ จากผู้อื่นโดยไม่สมควร"
เรามาพิจารณาคำศัพท์เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น:
• น (นะ): ไม่
• เว: แน่แท้, จริงๆ, ย่อม (ในบริบทนี้เน้นย้ำความจริง)
• ยาจนฺติ (ยา-จัน-ติ): ขอ, วิงวอน, ปรารถนา, เรียกร้อง
• สปฺปณฺณา (สัป-ปัน-ณา): ผู้มีปัญญา, บัณฑิต, ผู้ฉลาด (มาจากคำว่า "ส" แปลว่า ดี, งาม และ "ปัญญา" แปลว่า ความรู้ทั่ว, ความเข้าใจ)
เมื่อรวมกันแล้ว พุทธสุภาษิตบทนี้จึงเน้นย้ำลักษณะสำคัญประการหนึ่งของผู้มีปัญญา นั่นคือ การไม่ร้องขอหรือเรียกร้องสิ่งใดๆ จากผู้อื่นอย่างไม่สมควร
อธิบายเพิ่มเติม:
เหตุใดคนมีปัญญาจึง "ไม่ขอเลย"? คำว่า "ไม่ขอ" ในที่นี้มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าการไม่เอ่ยปากขอสิ่งของเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงลักษณะต่างๆ ดังนี้:
• พึ่งพาตนเอง: ผู้มีปัญญาย่อมตระหนักถึงคุณค่าของการพึ่งพาตนเอง พวกเขาจะใช้สติปัญญา ความสามารถ และความเพียรพยายามของตนเองในการแสวงหาสิ่งที่ต้องการ แทนที่จะรอคอยหรือหวังพึ่งผู้อื่น
• รู้จักประมาณตน: คนมีปัญญาย่อมรู้ว่าอะไรที่ตนเองสามารถทำได้ และอะไรที่เกินกำลัง พวกเขาจะไม่เรียกร้องหรือคาดหวังในสิ่งที่ผู้อื่นไม่สามารถให้ได้ หรือในสิ่งที่ตนเองไม่สมควรได้รับ
• มีเหตุผลและเข้าใจโลก: ผู้มีปัญญาเข้าใจความเป็นไปของโลก เข้าใจว่าทุกคนต่างก็มีภาระและความรับผิดชอบของตนเอง พวกเขาจะไม่สร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นด้วยการร้องขอสิ่งที่ไม่สมควรหรือไม่เหมาะสม
• มีศักดิ์ศรีและความเคารพตนเอง: คนมีปัญญาย่อมเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเอง พวกเขาจะไม่ลดคุณค่าของตนเองด้วยการเที่ยวขอความช่วยเหลือหรือผลประโยชน์จากผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
• ให้ความสำคัญกับการให้มากกว่าการรับ: ผู้มีปัญญามักจะมีความสุขกับการเป็นผู้ให้ มากกว่าการเป็นผู้รับ พวกเขาจะยินดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ แทนที่จะเป็นผู้ร้องขออยู่เสมอ
• ละความโลภและความอยากที่ไม่สิ้นสุด: ปัญญาช่วยให้บุคคลมองเห็นโทษของความโลภและความอยากที่ไม่ประมาณตน การไม่ขอจึงเป็นการแสดงออกถึงการควบคุมความปรารถนาของตนเอง
ข้อควรระวัง:
พุทธสุภาษิตนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้มีปัญญาจะไม่รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเลยในทุกกรณี ในสถานการณ์ที่จำเป็นอย่างแท้จริง หรือเมื่อผู้อื่นหยิบยื่นความช่วยเหลือด้วยความเมตตาและเจตนาที่ดี ผู้มีปัญญาก็สามารถรับได้ แต่การรับนั้นจะเป็นไปด้วยความสำนึกในบุญคุณ และไม่เป็นการเรียกร้องหรือคาดหวังจนเกินงาม
สรุป:
พุทธสุภาษิต "น เว ยาจนฺติ สปฺปณฺณา" สอนถึงคุณลักษณะสำคัญของผู้มีปัญญา นั่นคือ การไม่ร้องขอหรือเรียกร้องสิ่งใดๆ จากผู้อื่นโดยไม่สมควร ผู้มีปัญญาจะให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเอง รู้จักประมาณตน มีเหตุผล เข้าใจโลก ให้ความสำคัญกับการให้ และละความโลภ การไม่ขอในลักษณะนี้จึงเป็นเครื่องแสดงถึงความมีสติปัญญา ความมีศักดิ์ศรี และความเข้าใจในความเป็นจริงของชีวิต ๛