(บทกลอนธรรม..เเห่งรัก)
..ยิ่งรัก.........ยิ่งรัด
..ยิ่งขจัด........ยิ่งยากได้
..ยิ่งผูกพัน.......ยิ่งห่างไกล
..ยิ่งหลงไหล.....ยิ่งไม่เจอ
..ยิ่งอยากสุข.....ยิ่งได้ทุกข์
..ยิ่งสนุก........ยิ่งเหนื่อยใจ
..ยิ่งคุยกัน.......ยิ่งเหลวไหล
..ยิ่งสนทนาไป....ยิ่งข้องใจ
..ยิ่งอยากได้.....ยิ่งบรรลัย
..ยิ่งมองกัน......ยิ่งสงสัย
..ยิ่งเข้าใกล้......ยิ่งห่างไกล
..โอ็รักไซต์......ยิ่งรัดจริง
..อยากจะรัก........ให้รักตามพ่อเเม่ปลูก
อยากจะรู้...........ให้รู้ตามคุณครูสอน
อยากจะลอง.........ให้ลองตรองพิจารณาว่าอะไรดี
อยากจะหัด..........ต้องหัดใจให้กตัญญูเอ๋ย
..ขาดคนรัก........ให้รักพ่อเเม่
..ขาดเพื่อนรัก......ให้รักตัวเอง
..ขาดของรัก.......ให้รักหน้าที่
(บทกลอนธรรม..เเห่งรัก)
ธรรมบุตร..ที่สุดคือธรรมะ
(ขอเชิญเเต่งกลอนธรรม...เเห่งรัก)
เพื่อสาธุชน...ผู้ประพฤติในธรรมได้เข้าใจความรักในความหมายของพระธรรม
อนุโมทนา สาธุ
# 1 / sahatpeth / 21 ก.พ. 2555 เวลา 11:43 น.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
๐ ความรัก หรือ คืออารมณ์ ที่คุกรุ่น
ที่บางเบา ยืดหยุ่น และสดใส
มองทุกสิ่ง แสนตระการ เบิกบานใจ
ทั้งอ่อนนุ่ม ละมุนละไม ในจินตนา
๐ แต่กิเลส ที่แฝงมา กับความรัก
กลับพาชัก ให้คลุกเคล้า เจ้าตัณหา
มีกิเลส เป็นกองหนุน ตลอดเวลา
จึงเริ่มเปลี่ยน ทีท่า พาวุ่นวาย
๐ เริ่มจากการ ต้องการ เป็นเจ้าของ
เริ่มอยากครอง ไว้คนเดียว เหนี่ยวกลัวหาย
เริ่มระแวง แคลงคลางจิต เกรงเปลี่ยนกลาย
เริ่มพะวง หลงวุ่นวาย ในฤดี
๐ ความรักจึง ถูกเงื่อนงำ นำไปผิด
ตามจริต ที่ต้องการ กาลสุขขี
แล้วพรอดพร่ำ ถลำลึก ลงทุกที
เพิ่มราคี สิ่งสิ้นศรี สู่หทัย
๐ ให้ย้อนกลับ ดูนิยาม อีกครั้งหนึ่ง
แล้วจะทึ่ง เพราะรัก ประจักษ์ใส
เพราะว่ารัก ต้องเมตตา และอภัย
มิใช่ไขว่ คว้าเอาไว้ เป็นของตน
๐ เพราะนั่นคือ ความโลภ ละโมบแล้ว
จิตที่เคย ใสดั่งแก้ว เกิดสับสน
เพราะกิเลส ตัณหาเคล้า เข้าครอบตน
จึงได้ยล แต่ทุกข์ สุขไม่มีฯ
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 2 / หิ่งห้อยน้อย / 27 ก.พ. 2555 เวลา 15:50 น.
เปิดอ่านหน้านี้ 5537