ให้ละอายแมว ให้ละอายหมาด้วยก็ได้ เพราะไม่เห็นแมวหรือหมาเป็นโรคประสาท เพราะการบีบคั้นของเวลา


ความรู้ในพุทธศาสนาสูงพอที่จะทำให้เราสามารถอยู่ "เหนืออำนาจของเวลา"

ความรู้ในโลกปัจจุบันนี้ ไม่อาจจะทำให้รู้ได้ว่า เวลา คืออะไร ด้วยซ้ำไป....เพราะเขาเอาแต่วัตถุเป็นหลัก อย่างดีก็เป็นแต่เครื่องกำหนดเวลา แต่ความรู้ในทางธรรมะ ทางศาสนานี้ สอนให้เรารู้ได้ว่าเวลานั้นคืออะไร

คือบัญญัติลงไปได้เลยว่า เวลานั้นคือ "จุดระหว่างความอยากตั้งต้น กว่ามันจะได้รับผลของความอยาก" นั้นคือเวลา คือความอยากยังไม่ได้ตามความต้องการของความอยาก นั้นคือ "ความหมาย" ของเวลา ถ้าไม่มีความอยากก็ไม่มีเวลา ไม่มีความหมายของเวลา ไม่มีเวลา เวลาจะมีค่ามีอำนาจขึ้นมาได้ ก็ต้องมีความอยากของบุคคลนั้น

ฉะนั้น มันจึงน่าหัวว่า อยู่ในโลกด้วยกันนี้ แต่บางคนอยู่ใต้อำนาจของเวลา บางคนอยู่เหนืออำนาจของเวลา คนบุถุชนทั่วไปอยู่ใต้อำนาจของเวลา ถูกเวลาบีบคั้นกัดกินอยู่ แต่พระอรหันต์อยู่เหนืออำนาจของเวลา เวลาไม่บีบคั้นกัดกินท่านได้

คนที่อยู่ใต้อำนาจของเวลา มันก็ทนทรมานไป ต้องทนทรมานไปตามอำนาจความบีบคั้นของเวลา เขามีอดีต ปัจจุบัน และอนาคต.

ฉะนั้น ขอให้เป็นที่สนใจว่า เราจะได้รับประโยชน์ มีความสุขจริงจากชีวิตของเรานี้จะต้องรู้จักทำชีวิตให้อยู่เหนือการบีบคั้นของเวลา เพราะเราไม่โง่และไม่อยากอะไรเข้า ชีวิตนี้จึงอยู่เหนือการบีบคั้นของเวลา อย่างน้อยก็ได้รับประโยชน์ คือไม่มีความทุกข์ และถ้าว่าเราทำเรื่อย ๆ ไป มันก็จะดียิ่ง ๆ ขึ้นไปจนหมด หมดอำนาจของเวลาโดยสิ้นเชิง หรือว่าเรารู้จักทำบ้าง บางครั้งบางคราว มันคุ้มเราให้อยู่เป็นผาสุกได้ ไม่ต้องละอายแมว.

คำนี้จะพูดอยู่เสมอ ใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ตามใจ ไอ้พวกละอายแมว นอนไม่หลับ เป็นโรคประสาทบ้าง ต้องละอายแมวบ้าง เพราะคนเหล่านั้น เวลามันบีบคั้นเกินไป

สัตว์เดรัจฉานมันไม่มีความอยาก มันไม่มีความต้องการมากเหมือนมนุษย์ เวลาก็บีบคั้นสัตว์เดรัจฉานไม่ได้มากเหมือนมนุษย์ สัตว์เดรัจฉานไม่เป็นโรคประสาท แต่คนเป็นโรคประสาท ให้ละอายแมว ให้ละอายหมาด้วยก็ได้ เพราะไม่เห็นแมวหรือหมาเป็นโรคประสาท เพราะการบีบคั้นของเวลา

พุทธทาสภิกขุ

3,168







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย