ถ้าอยู่แค่กับความอยากความยึดนั้น ก็ไม่มีอะไรสำเร็จตามที่ปรารถนา แต่จะต้องเจอกับสภาพฝืนใจที่ย้อนกลับมาบีบคั้นตัวเองให้มีทุกข์อัดอั้นบอบช้ำ
ในการดำเนินชีวิตเป็นอยู่ของมนุษย์ เมื่อมีปัญญารู้เข้าใจความจริงตามธรรมดาของสภาวะแล้วก็รู้จักที่จะปฏิบัติในการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง เรียกว่านำความรู้เข้าใจสัจธรรม ในภาคมัชเฌนธรรมเทศนานี้ ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติจริยธรรม เป็นการดำเนินมรรคาชีวิตในภาคมัชฌิมาปฎิปทา คือรู้ทันว่า การถืออัตตา ตัวตนนั้น เป็นเรื่องของมนุษย์ที่มีความยึดถือด้วยอวิชชาตัณหาอุปาทาน ซึ่งไม่ตรงตามความเป็นจริง ถ้าอยู่แค่กับความอยากความยึดนั้น ก็ไม่มีอะไรสำเร็จตามที่ปรารถนา แต่จะต้องเจอกับสภาพฝืนใจที่ย้อนกลับมาบีบคั้นตัวเองให้มีทุกข์อัดอั้นบอบช้ำ
ดังนั้น คนที่มีปัญญา รู้เข้าใจความจริงแห่งธรรมดาของสิ่งทั้งหลายที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยแล้ว เมื่อต้องการให้อะไรเป็นอย่างไร หรือเมื่ออะไรไม่เป็นไปอย่างที่ปรารถนา ก็ไม่มัวอยู่กับความปรารถนาที่ไม่สมได้แค่โอดครวญพร่ำเพ้อแต่รู้จักปฏิบัติจัดการให้ตรงเรื่องของเหตุปัจจัยนั้นๆ ก็รักษาจิตให้เป็นอิสระได้ และรู้ทันความสำเร็จหรือไม่ตามความเป็นไปได้หรือไม่ได้ของเหตุปัจจัยเหล่านั้น
หนังสือ พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย
โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)