ทุกๆ ขณะที่ต้องอดทน ไม่ใช่เรื่องที่กดดันหรือชวนเศร้าหมอง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งบนหนทางพ้นทุกข์
พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ ‘ขันติ’ คือความอดทนว่าเป็น ‘เครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง’ มีผู้รู้ท่านหนึ่งจำกัดความของขันติว่า ‘การอยู่ร่วมกับสิ่งที่ไม่ชอบใจโดยสันติ’ เราจะพัฒนาขันติได้ดีที่สุดเมื่อเราเห็นคุณค่าของความอดทนอย่างชัดเจน และเห็นว่าขันติเป็นเป้าหมายระหว่างทางที่สำคัญมากประการหนึ่งบนหนทางแห่งการปฏิบัติธรรม
เราต้องเตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความสำคัญของความอดทน เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่าของขันติ เราเตือนตนเองโดยพิจารณาคุณประโยชน์ของความอดทนและโทษของการไม่อดทน พึงถามตัวเองว่า “ที่ผ่านมา มีทุกข์ใดบ้างที่เราสร้างให้ตนและผู้อื่นเนื่องจากขาดความอดทน มีสุขและคุณประโยชน์ใดบ้างที่เราได้รับจากการฝึกฝนความอดทน ในอนาคต มีทุกข์มากมายเพียงใดที่รออยู่ หากเราละเลยการพัฒนาความอดทน และมีสุขและความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมมากมายเพียงใดที่จะเกิดขึ้นจากความอดทน”
นอกจากนี้ เราอาจนึกถึงตัวอย่างของคนอื่นๆ ที่ขาดความอดทนแล้วก่อให้เกิดผลเสียตามมามากมาย หรือระลึกถึงตัวอย่างของความอดทนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา จากนั้น คุณธรรมข้อนี้จะเปรียบเหมือนสิ่งใกล้ตัวที่พร้อมจะใช้ได้ตลอดเวลา และส่งผลต่อชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเริ่มเห็นว่า ทุกๆ ขณะที่ต้องอดทน ไม่ใช่เรื่องที่กดดันหรือชวนเศร้าหมอง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งบนหนทางพ้นทุกข์
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ