"เมตตากรุณาที่ขาดปัญญานั้นบางครั้งอาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี เมตตากรุณาที่กำกับด้วยปัญญาย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าเพราะคำนึงถึงประโยชน์สุขในภาพรวมและในระยะยาวของบุคคลที่เราเมตตา

สามเณรน้อยรูปหนึ่งได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในคณะพระอุปัฏฐากหลวงพ่อชา วันแรกๆ ก็รู้สึกกดดันในภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาก แต่ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อก็ทำให้สามเณรค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้น

วันหนึ่ง ขณะทำความสะอาดตู้ สามเณรเจอจานกระเบื้องเซรามิกที่มีภาพหลวงพ่อชาอยู่ ท่าทางจะเก็บไว้ในตู้มานานแล้ว สามเณรนึกในใจว่าโยมแม่คงจะดีใจมากถ้าได้รับภาพนี้ เย็นวันนั้น พอมีโอกาสอยู่กับหลวงพ่อตามลำพัง สามเณรก็รวบรวมความกล้าเอ่ยปากขอจานเซรามิกจากท่าน แต่ยังไม่ทันจะขาดคำ สามเณรก็ใจหายวาบ เมื่อเห็นสีหน้าอันเปี่ยมด้วยเมตตาของหลวงพ่อเปลี่ยนเป็นความดุดันกระทันหัน หลวงพ่อดุด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวจนสามเณรตกใจตัวสั่นและรีบกราบลาหลวงพ่อโดยไว

ครั้นทำหน้าที่อุปัฏฐากจนครบวาระแล้ว สามเณรก็ถูกส่งไปยังวัดสาขาแห่งหนึ่ง สามเดือนต่อมา ก็มีพระรูปหนึ่งมาตามหาแล้วยื่นจานกระเบื้องใบนั้นให้ พลางบอกว่าหลวงพ่อชาฝากมาให้

ในวินาทีนั้น สามเณรน้อยเพิ่งตระหนักว่า ที่จริงหลวงพ่อตั้งใจจะให้ภาพนั้นตั้งแต่แรกแล้ว ทว่าท่านไม่อยากให้สามเณรคิดไปว่า พอได้อุปัฏฐากครูบาอาจารย์ก็จะมีสิทธิขอโน่นขอนี่หรือร้องขออะไรเป็นพิเศษได้ สีหน้าดุดันน่าเกรงขามของหลวงพ่อชาแสดงถึงเมตตาของท่านได้พอๆ กับใบหน้าแย้มยิ้มอย่างอบอุ่น"

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร