ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่าง : สมเด็จพระญาณสังวร
ท่านจึงกล่าวว่า "ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่างเป็นเครื่องส่องทาง เป็นเครื่องนำชีวิต เป็นเครื่องยังชีวิตให้สว่าง" ถ้าต้องการเป็นแสงสว่างทั้งของตนเองและของผู้อื่นก็ต้องฝึกตนให้เป็นคนดี หนีให้ไกลจากความโลภ โกรธ หลง ให้มากที่สุด
กิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ หรือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นเครื่องเศร้าหมอง มีอยู่ที่ใดย่อมทำให้ที่นั้นเศร้าหมอง มีอยู่ใกล้ผู้ใดย่อมทำให้ผู้นั้นเศร้าหมอง เปรียบดังฝุ่นละอองจับต้องเข้าที่ใดสิ่งใดย่อมทำที่นั้นสิ่งนั้นให้หมองมัว กิเลสจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกให้ไกล
จิตที่มีความใสสะอาด บริสุทธิ์ประภัสสร ไม่อาจปรากฎได้เลยคือจิตของผู้ที่ยังเกลือกใกล้กับกิเลสมากหลาย กิเลสยังปกคลุมหุ้มห่อจิตอยู่แน่นหนามาก มากทั้งโลภะ มากทั้งโทสะ มากทั้งโมหะ ผู้มีจิตเช่นนี้ย่อมเป็นเหตุแห่งความเดือดร้อนนานาประการทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น รวมเรียกได้ว่า "แก่โลก" จิตเช่นนั้นจึงเป็นที่รังเกียจ
โลกมิได้มีความหมมายเพียงดาวดวงหนึ่งในจักรวาล แต่ "โลกหมายถึงทุกคนทุกสัตว์" คือ หมายถึงเราหมายถึงเขานั่นเอง เราเดือดร้อน เขาเดือดร้อน นั่นก็กล่าวได้ว่า โลกเดือดร้อน จึงอย่าแยกเราแยกเขา พึงถือเป็นโลกด้วยกัน
"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙"