"คุณค่าของพระพุทธศาสนา" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"คุณค่าของพระพุทธศาสนา"
" .. คนพวกที่มาบวชในพุทธศาสนานั้นน่ะอย่างน้อยที่สุด "ก็ทรงไว้ซึ่งเพศสมณะ เป็นที่สำหรับให้พวกที่ยังไม่ได้บวช หรือพวกที่ยังไม่ได้คบค้าสมาคม ได้ เห็นผู้ปฏิบัติดีมีศีลธรรม" เป็นเครื่องวัดศวามดีของพวกชาวบ้านและญาติโยม "ถึงพระจะเลวสักเท่าใด ก็เรียกว่ายังพออดทนอยู่ได้ในพุทธศาสนา อย่างน้อยที่สุดศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ก็ย้งมี ถึงแม้จะไม่ครบ ๒๒๗"
แต่ฆราวาสพวกเราบางคน "ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย ศีล ๕ สักตัวเดียวก็ไม่เคยรักษา เห็นความ ผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพระภิกษุสามเณร ก็อย่าเพิ่งถือว่าเลวทั้งหมด การเหมาเอาว่า พระภิกษุเหมือนกันทั้งหมดก็ยังไม่ถูก"
พุทธศาสนาไม่ได้หมายเอาที่พระ "หมายเอาการปฏิบัติต่างหาก" พระนั้นอยู่ที่ บุคคล "แต่ศาสนาไม่ได้อยู่ที่บุคคล" ศาสนาเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า "ถ้าบุคคลปฏิบัติผิด ก็เป็นเรื่องบุคคลผิดไม่ใช่ศาสนาผิด ศาสนาก็ยังสอนตรงไปตรงมาอยู่ตามเดิม สอนให้ละชั่วทำดีอยู่ตามเดิม"
แต่คนไม่ปฏิบัติตาม "เมื่อเราปฏิบัติตามดำสอนไม่ได้จะหาว่าศาสนาไม่ดีไม่ได้" นี่ให้พิจารณา อย่างนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว "ใครจะทำผิดทำเลวทรามอย่างไรเป็นเรื่องศาสนาเสื่อมหมด" ยกให้ศาสนาไม่ดีทั้งนั้น
บางทีแม้แต่คนเข้าวัดเข้าวามาฟังเทศน์ ฟังธรรมรักษาศีลอบรมภาวนาทำกัมมัฏฐานแสดง กิริยาโกรธกริ้วขึ้นสักทีหนึ่ง "โอโฮ! กล่าวโทษศาสนานี้ไม่ดีเลย" เข้าวัดเข้าวาจนแก่จนเฒ่าแล้วยังละโลภ โมโทสันไม่ได้ พูดอย่างนี้มันก็ผิดไป อย่าพูดอย่างนั้น "นั่นเรื่องของบุคคล ศาสนาสอนให้ละ แต่บุคคลไม่ละ ไม่ทราบจะทำอย่างไร" ถ้าเข้าใจได้อย่างนี้ก็สบาย .. "
"ปกิณกะเทศนา"
พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)