ทำดีเปลื้องตนจากหนี้ของโลก : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 จำปาพร  

พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

...

พระพุทธเจ้าพระองค์เป็นผู้ฉลาดเหนือคนในโลก
พระองค์สอนให้พุทธบริษัทให้รู้จักทำประโยชน์ตน
และประโยชน์ผู้อื่น หมายความว่าอย่างนั้นแหละ
แม้แสวงหาทรัพย์สินเงินทองข้าวของมา
ได้มาแล้วก็ไม่ควรที่จะหวงแหนไว้
บริโภคแต่เฉพาะตัวผู้เดียว มันต้องนึกถึงบุคคลอื่นด้วย

เพราะเราเกิดมาอยู่ในโลกนี้คนเดียวไม่ได้
ต้องเกิดมาอยู่ในที่ห้อมล้อมของคนทั้งหลาย
เริ่มตั้งแต่มารดาบิดา ลุงป้าน้าอา พี่ชายพี่สาว
หมู่นี้ล้วนตั้งแต่ได้ดูแลช่วยมารดาบิดาประคับประคอง
ชีวิตของตนน่ะก็จึงเจริญวัยใหญ่โตมาได้

และนอกจากนี้ก็ยังเพื่อนบ้านที่อยู่ด้วยกันอีก เช่น
เพื่อนบ้านเขาถ้าไปเห็นเด็กเห็นเล็กอะไร
ที่มันจะไปเที่ยวซุกซนมันจะเป็นอันตรายอย่างนี้
ใครเห็นเข้าแล้วเอ็นดู เขาก็ช่วยประคับประคองเด็กนั้น
เอาไปส่งพ่อแม่เขา อะไรหมู่นี้นะ
นั่นแหละชาวบ้านซึ่งไม่ใช่วงศาคณาญาติ
เขาก็มีคุณมีโณต่อเรานี่ไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะ
เพราะเกิดมาทีแรกมันยังไม่รู้เดียงสาอะไร
อาศัยผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้เดียงสาแล้ว
ก็ได้ช่วยประคับประคองชีวิตนี้ให้เจริญวัยใหญ่โต
ปราศจากภัยอันตรายต่างๆมาได้ ลองคิดดู

เนี่ยการเกิดมาเป็นคนในโลกนี้
มันอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่างกว่าว่ามันจะมีชีวิตเป็นอยู่ได้
ดังนั้นผู้ใดเมื่อหากเป็นผู้ประมาทไม่นึกถึงชีวิตของตน
ให้เห็นแจ้งในเหตุปัจจัยของชีวิตนี้ตามเป็นจริง
ผู้นั้นก็จะไม่รู้สึกนึกคิดว่าตนได้เป็นหนี้บุญหนี้คุณของผู้อื่นอยู่
แต่ถ้าได้คิดได้พิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนดังที่แสดงมาแล้วนี่น่ะ
ก็จะเห็นได้ว่า ชีวิตของคนเราแต่ละคนนี่น่ะ
เราเป็นหนี้บุญหนี้คุณของท่านผู้อื่นอยู่มากมาย

ทางที่จะเปลื้องหนี้ออกจากตนได้ก็ ได้แก่
การที่เราพยายามทำความดี ละความชั่วออกจากกายวาจาใจ
ทำความดีให้งอกงามขึ้นในตนแล้วอุทิศส่วนผลแห่งความดีอันนี้
ให้แก่ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่ได้อุปการะเกื้อกูลตนมา
ให้ท่านเหล่านั้นได้รับอนุโมทนาส่วนบุญกุศลอันนี้
แล้วขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป

นี่ล่ะพูดกันโดยรวบรัดเรียกว่า เราเกิดมาทำความดี
เพื่อใช้หนี้ของโลก เรามาเป็นหนี้โลกอันนี้อยู่
เออ เมื่อเราละกิเลสตัณหาอาสวะให้หมดสิ้นไปแล้ว
เราก็หมดหนี้หมดสินจากโลกสันนิวาสอันนี้ ดังแสดงมา

...

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "ตกแต่งเรือนใจ"

5,636







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย