"อสุภํ มรณํ" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)

 วิริยะ12  

 "อสุภํ มรณํ"

".. อีกตอนหนึ่ง "หลวงปู่สิม พุทธาจาโร" ได้เมตตาเล่าประสบการณ์ "ที่ท่านได้ อสุภกรรมฐาน" จากการพิจารณาซากศพ สมัยพำนักอยู่ที่ "สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านเหล่างา"(วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม) จังหวัด ข่อนแก่นว่า ..

"ศพที่เก็บไว้ ๔-๕ วัน ก่อนจะเผานั้น" ถ้าสมณะนักบวชเรายังไม่เคยเห็น ก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร "แต่ผู้ที่เคยดูศพอย่างนั้นมาแล้วจะนึกได้ว่า พอเปิดฝาโลงเท่านั้นแหละ จะเห็นน้าท่วมเอ่อขึ้นมาตั้งครึ่งโลง" แมลงวันไม่รู้มาจากไหน ไม่ต้องมีใครเชื้อเชิญละ มาจับสบงจีวรเต็มไปหมด "เวลาไปบังสกุลเสร็จ ดมซากศพเสียไม่รู้กี่ลมหายใจ"

อัน "กลิ่นเหม็นอสุภะ ของน้ำเลือดน้ำหนองคนเรานั้น มันไม่เหมือนเนื้อสัตว์อย่างอื่น มันเหม็น .. " หลวงปู่เว้นช่วงนิดหนึ่ง ด้วยคงไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบกับอะไรดี " .. เหม็นเหมือนแบบ .. ที่ไม่ชอบนะ" คือร่างกายมนุษย์คนเรามันก็ดูชอบกัน "มันดูดกันได้ ดูดเอากลิ่นเหม็นเข้ามาอยู่ในคนที่ไม่เหม็น เลยเหม็นไปด้วยกัน"

นี่แหละร่างกายนั้น "พระพุทธองค์ท่านจึงสอนให้กำหนดเป็นอสุภกรรมฐาน" อย่าไปเห็นว่า "รูป" ไม่ว่าหญิงชาย "ให้เข้าใจว่า เป็นอันเดียวกันไม่มีใครสวยใครงามกว่ากัน"

สมมุติโลกว่าสวยว่างาม "สมมุติธรรมมันไม่มีสวยงาม อสภํ มรณํ ทั้งนั้น" ถึงมันจะยังไม่ตายตอนเด็กตอนหนุ่มก็เถอะ "ไม่นานละเดี๋ยวมันก็ทยอยตายไปที่ละคนสองคนหมดไป" สิ้นไปไม่เหลือ .. "

"ธรรมประวัติ" (๕๔-๕๕)
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
 

5,603







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย