"สามทัพธรรม"
" .. 
"ศีล สมาธิ ปัญญา ทั้งสามเหล่านี้ต่างอาศัยเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน" จะเว้นเสียอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วอยู่โดดเดี่ยวดำเนินไปตามลำพังย่อมไปไม่รอด 
ดังกองทัพทั้งสามทัพต้องอาศัยซึ่งกันและกันดังกล่าวแล้ว 
"แม้แต่ทานก็ต้องอาศัยสมาธิและปัญญาเป็นผู้อุดหนุน" เว้นเสียแต่ว่าจะใช้มากหรือน้อยตามความจำเป็นในหน้าที่นั้น ๆ 
เช่น ศีล 
"ใช้ปัญญาพิจารณาเห็นโทษของความไม่มีศีล แล้วจึงจะสามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้"  เมื่อมาระลึกถึง 
"ความบริสุทธิ์ กาย วาจา ของตนจนเห็นชัดแจ้งแล้ว ใจจะผ่องใสบริสุทธิ์หยุดนิ่งอยู่ในความบริสุทธิ์ของศีลนั้น" จนเป็นเอกัคคตาสมาธิ 
"สมาธิหากศีลไม่บริสุทธิ์ ความวิปฏิสารเดือดร้อนยังมีอยู่แล้ว จิตก็จะตั้งมั่นเป็นสมาธิไม่ได้" นั่นคือปัญญายังไม่เกิด ไม่สามารถจะชำระรากฐาน(คือ ศีล) ให้สะอาดได้ 
เมื่อจิตยังไม่ตั่งมั่น หวั่นไหวไปในอารมณ์อยู่ 
"ไฉนปัญญาจักรู้เห็นธรรมที่เป็นของจริงของตรงได้" เหมือนกับตราชูลูกตุ้มคันชั่งไม่นิ่งเป็นปกติเสียแล้ว จะหวังได้ความยุติธรรมมาจากไหน 
"ศีล สมาธิ ปัญญาต่างก็เป็นปัจจัยอุดหนุนซึ่งกันและกันอยู่อย่างนี้" .."
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://tesray.com/three-dhamma-forces/