เราจะระลึกรู้ถึงจิตได้ง่ายที่สุด เมื่อจิตว่างจากความคิด
"ในสติปัฏฐานสูตร พระพุทธองค์ทรงให้โอวาทเรื่องการดูจิตในจิต (จิตตานุปัสสนา) ดังนี้:
“จิตมีราคะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะ ก็รู้ชัดว่าจิตปราศจากราคะ
จิตมีโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตปราศจากโทสะ
จิตมีโมหะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะ ก็รู้ชัดว่าจิตปราศจากโมหะ”
แต่เราจะเห็นจิตได้อย่างไร
มีวิธีง่ายๆ ที่ทำให้เราเกิดประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ คือ แค่ลองกลั้นลมหายใจสักครู่หนึ่ง
สิ่งที่ปรากฏนั่นแหละ คือ จิต ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ในชีวิตของเราที่ปกติธรรมดาที่สุด และปรากฏให้เห็นตลอดเวลา แต่เมื่อขาดการรับรู้ในความมีอยู่ของจิต เราจึงหมายมั่นไปกับอารมณ์อันไม่แน่ไม่นอนและตกอยู่ใต้อำนาจของกิเลสรำ่ไป
เราจะระลึกรู้ถึงจิตได้ง่ายที่สุด เมื่อจิตว่างจากความคิด การระลึกรู้นี้มีค่า เพราะการเห็นจิตก่อนและหลังการเกิดของอารมณ์จะช่วยให้เราเข้าใจความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวมีตนอย่างแท้จริงของอารมณ์นั้นๆ แต่เมื่อชำนาญขึ้น เราจะสามารถระลึกรู้ถึงจิต แม้ในระหว่างที่เกิดความคิดปรุงแต่ง เวลานี้เองที่การเห็นจิตในจิตเริ่มให้ผลอย่างแท้จริง"
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ