เมื่ออะไรเกิดขึ้น ก็ เช่นนั้นเอง ให้มันทันท่วงที
ให้ "เช่นนั้นเอง" เป็นเครื่องคุ้มครอง
การแขวนพระเครื่องไว้ที่คอก็มีความหมายที่ต้องคิดนึกกันสักหน่อยว่า ถ้าแขวนไว้เฉยๆ มันก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้าแขวนไว้กันลืม ให้ระลึกนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรืออะไรก็ตามมันก็ได้ประโยชน์ เราก็เหมือนกันจะเอาคำว่า "เช่นนั้นเอง" มาแขวนไว้ที่คอ โดยไม่รู้ความหมาย มันก็ไม่มีประโยชน์ ก็ต้องเอามาแขวนไว้ในลักษณะที่รู้ความหมาย คือ ใช้ให้เป็นประโยชน์ให้ได้นั่นเอง
เมื่ออะไรเกิดขึ้นก็ "เช่นนั้นเอง" ให้มันทันท่วงที
ของที่สวยงามทางตาผ่านมา มันก็เช่นนั้นเอง
ของที่น่าเกลียด น่าชัง ผ่านมามันก็เช่นนั้นเอง
หรือมันจะเป็นอย่างไร ลองคิดดู
ให้สวยผ่านมา ก็ไม่รัก มันก็เช่นนั้นเอง
ไม่สวยผ่านมา ก็ไม่ชัง มันก็เช่นนั้นเอง
มันก็ไม่ยินดียินร้าย มันเฉยได้
มันจึงไม่เกิดตัณหา อุปาทาน
มันจึงไม่มีความทุกข์
นี่ เช่นนั้นเอง มันคุ้มครอง
ไม่ยินดีในส่วนที่
ชวนให้ยินดี
ไม่ยินร้ายในส่วนที่
ชวนให้ยินร้าย
จะยกตัวอย่างทางหู อย่างที่เขาฟังว่าไพเราะ คนโง่ๆ ก็ยึดถือตามไปว่าไพเราะ มันก็มีสิ่งที่ไพเราะเกิดขึ้น แต่ผู้รู้เขาก็ว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง เช่น ดนตรีต่างๆ ประสานเสียงกัน ฟังดูว่าไพเราะ ถูกสอนกันมาว่าไพเราะ แต่ผู้รู้มันก็เห็นกันว่า เช่นนั้นเอง
ที่นี้ที่มันไม่ไพเราะ
ฟังแล้วรำคาญหู
มันก็เช่นนั้นเองอีกเหมือนกัน เพราะมันประกอบด้วยลักษณะอย่างนั้นจึงรำคาญหู
ถ้ามันรู้สึกว่า "เช่นนั้นเอง"
มันก็ไม่รู้สึกว่าไพเราะ
ไม่รำคาญในเสียงที่ไม่ไพเราะ
ก็อยู่ได้โดยไม่เป็นโรคประสาท
ถ้ามันคอยพอใจ
ในส่วนที่มันสวย ไพเราะ
แล้วไม่พอใจในส่วนที่ไม่สวย
ไม่ไพเราะ
มันก็ขึ้นๆ ลงๆ ฟูๆ แฟบๆ
ในที่สุดมันก็ต้องวิปริต
ในทางจิตใจ
.
เอา "เช่นนั้นเอง" มาคุ้มครองไว้ อย่าให้มัน ขึ้นๆ ลงๆ ฟูๆ แฟบๆ
พุทธทาสภิกขุ