ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
ฝนแห่งกาม สู่ ฝนแห่งธรรม
๐ หิ่งห้อยฯ น้อมกาพย์ให้ยล . มาพร้อมกับฝน
ปรายโปรยโรยมาลงดิน
๐ ฝนเวียนมาเป็นอาจิน ....... จากฟ้าสู่ดิน
มิเคยขาดปลายสายฝน
๐ ใคร่ขอนำเปรียบจิตตน ...... เวียนว่ายไม่พ้น
โอฆะมหรรณพพา
๐ เวียนว่ายอยู่ในวัฏฏา ........ จุติแล้วอุบัติมา
แต่ก็ไม่พ้นภูมิสาม
๐ ต้นเหตุคงไม่พ้นกาม- ....... คุณห้าที่ตาม
แต่งภพมิจบสิ้นไป
๐ ดั่งฝนมีเมฆเหตุใหญ่ ........ ไม่ต่างอนุสัย
ที่นอนเนื่องไว้ในทรวง
๐ สายลมจากฟ้าแดนสรวง .... ใช่สายลมลวง
สั่นไหวพร่างพลิ้วปลิวมา
๐ แต่จิตมนุษย์ยากหา ......... ความสุขใดมา
น้อมนำอาบจิตชิดจินต์
๐ จึ่งให้โหยหาถวิล ............ จากฟ้าจรดดิน
ไม่พบแม้สิ้นลมปราณ
๐ เวียนว่ายวนนับกัปกาล ...... มิเคยพบพาน
ความสุขสงบครบครัน
๐ ตราบได้มาพบสัทธรรม์ ..... ธ ทรงรังสรรค์
ตรัสแสดงพระธรรมเทศนา
๐ สุขสงบจึ่งเริ่มพบพา ......... ดุจฝนพรมหล้า
สัตว์โลกแช่มชื่นสุขสันต์
๐ ขอเชิญท่านผู้อ่านร่วมกัน ... บูชาทรงธรรม์
ด้วยมโน และ กาย วาจา
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 1 / หิ่งห้อยน้อย / 17 ก.ย. 2554 เวลา 22:50 น.
สาธุ..จ้า สาธุ..ผู้ละล่วง
สิ่งทั้งปวงเป็นไปใน สงสาร
เวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ คละบาดาล
ย่อมมีวันพบฝั่งได้ ไม่ร้างลา
เมื่อฝนมาชาวนาย่อมหน้าใส
แสนดีใจข้าวจะมีดีหนักหนา
ฉันใดเล่าฝนมากไปให้น้ำมา
ข้าวในนาก็มอดม้วยใครช่วยที
บทกวีที่ว่าไปไม่เข้าเรื่อง
แล้วยังเปลืองเวลา..อาป่าปี๋
จะบอกเล่ากล่าวอะไรในนที
ไว้พรุ่งนี้มาต่อขอลาเลย
# 2 / ป่าปี๋ / 4 ต.ค. 2554 เวลา 20:57 น.
..................... สาธุ
# 3 / paradon / 11 ต.ค. 2554 เวลา 15:18 น.
ฉันคนนี้แต่กลอนไม่ค่อยเก่ง
กลัวแต่งไปไม่ดีทำเสียหาย
# 4 / witsanu / 13 ต.ค. 2554 เวลา 23:49 น.