สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์
เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรมีกรรมแก่กันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
เมื่อเราแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
เรามีเมตตากับพวกเขาจริงหรือไม่? เรายังเบียดเบียนซึ่งกันและกันอยู่หรือเปล่า?
เขาไม่ได้เบียดเบียนเราแต่เรายังเบียดเบียนเขาอยู่หรือเปล่า? เราไม่ฆ่าสัตว์แต่เรากินเนื้อสัตว์อยู่หรือเปล่า?
เราไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตัวเอง แต่เราจ้างมือปืนรับจ้างให้ฆ่าเขามาให้เราหรือเปล่า?
เราไม่ได้ลงมือฆ่า แต่เราบอกแม่ค้าให้ลงมือฆ่าเพื่อสนองความต้องการของเราหรือเปล่า?
ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็เบียดเบียนเขาอยู่ เรายังกินเนื้อเขาอยู่แล้วเขาจะมีความสุขได้อย่างไร
เขาจะเลิกหวาดผวาได้อย่างไรว่าเมื่อไรจะถึงคราวที่เขาต้องถูกฆ่า แล้วเราจะถือว่ามีเมตตาต่อเขาได้อย่างไร
อีกทั้งพวกเขาจะรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นได้อย่างไร? ในเมื่อตัวเราเป็นคนหยิบยื่นความตายให้เขา
เมื่อเราไม่มีเงินเราก็ให้ผู้อื่นยืมไม่ได้
เมื่อเราไม่มีเมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายแล้วเราจะเอาเมตตาที่ไหนไปแผ่ให้เขา?
ถ้ามีใครมาทำร้ายร่างกายเรา ไม่ต้องถึงขนาดเอาชีวิตเรา
เพียงแค่ทำให้เราเจ็บปวด เราจะโกรธแค้นอาฆาตเขาไหม? ถ้ามีโอกาสแก้แค้นเราจะแก้แค้นเขาไหม?
พวกสัตว์ทั้งหลายที่ต้องตายเพื่อมาเป็นอาหารให้เราก็คงไม่ต่างกันเท่าไร
เขาก็คงจะโกรธแค้นอาฆาต ผูกพยาบาทและถ้ามีโอกาสก็คงแก้แค้นเราเช่นกัน
แต่ละภพ แต่ละชาติ สรรพสัตว์ต่างเวียนว่ายตายเกิดไปตามกรรม
บ้างก็เกิดเป็นมนุษย์ บ้างก็เกิดเป็นสัตว์ อีกทั้งแต่ละชาติภพเรามีญาติพี่น้องมากมาย
เมื่อเกิดชาติใหม่ ภพใหม่ เขาเหล่านั้นอาจจะเกิดมาเป็นสัตว์เนื้อแล้วเราก็กินพ่อแม่
ญาติพี่น้องของเราเอง แล้วพ่อ แม่ ญาติพี่น้องของเราในชาตินี้อาจจะโดนเรากินในชาติหน้า
หรือพ่อแม่ ญาติพี่น้องเขาเราในชาตินี้อาจจะกินเราในชาติหน้าก็เป็นได้
เมื่อคนตายก็เอาไปฝังไว้ที่ป่าช้า
ตัวเราก็ไม่ต่างจากป่าช้าที่ฝังศพเน่าเหม็นของสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
ทั้งหมู ไก่ เป็ด ปลา กุ้ง หอย เมื่อสัตว์ทั้งหลายตายก็เอามาฝังในร่างกายเรา
ในเมื่อป่าช้าเป็นที่ฝังผีและเป็นที่รวบรวมวิญญาณต่าง ๆ ไว้ฉันใด ในร่างกายของผู้กินเนื้อก็เป็นที่สั่งสมวิญญาณต่าง
ๆ ไว้ฉันนั้น
|