เมื่อเราหาเงินของเราเองได้
เราก็ใช้เงินของเราที่เราหามาได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อใดที่เราไม่มีเงิน
เราก็ต้องหยิบยืมจากผู้อื่น ถ้าหากเราค่อย ๆ ผ่อนใช้เขาไปทีละเล็กละน้อยจนหมด
ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ก็ไม่มีหนี้ค้างกัน แต่ถ้าเราไม่คืน เจ้าหนี้ก็ต้องหาวิธีที่จะเอาคืนจากเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เช่นให้คนอื่นมาข่มขู่ หรือขออำนาจศาลจับเราเข้าคุก
หากข้าพเจ้าเปรียบการหยิบยืมเงิน
การเป็นหนี้ เหมือนเป็นการทำให้ผู้อื่นโกรธ ผูกพยาบาท อาฆาต เศร้าโศกเสียใจ
ซึ่งเป็นเหตุให้เราต้องขอโทษเขา ขออโหสิกรรมจากเขา แล้วผู้ทำและผู้ถูกกระทำก็จะเลิกแล้วต่อกัน
ถ้าหากเราไม่ขอโทษ เขาก็จะหาทางทำร้ายเรา ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้หนี้คืนมา
ในทางกลับกัน หากผู้อื่นเป็นหนี้เรา
เราก็อยากที่จะได้ส่วนของเราคืน ดังนั้นความรู้สึกมันก็ไม่ต่างกันเท่าไร
เมื่อเราเข้าใจหัวอกของเจ้าหนี้ เราก็จะพยายามหาเงินคืนให้ เมื่อเราเข้าใจหัวอกของลูกหนี้
เราก็จะควรจะผ่อนปรน ไม่เข้มงวดจนเกินไป
แต่ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่ใช่มนุษย์ในชาติภพนี้
แต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรในชาติภพก่อน ๆ ที่รอคอยส่วนบุญส่วนกุศลจากเรา
เราก็ควรที่จะทำบุญทำกุศลแล้วแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้เขา ค่อย ๆ ผ่อนไปเรื่อย
ๆ จนกว่าจะหมด แต่ถ้าไม่เคยผ่อนส่งให้เขาเลยทั้งต้นทั้งดอก เขาก็จะหาทางทำให้เราเดือดร้อนทั้งทางกายและใจ
ทำให้เราเป็นโรคบ้าง เกิดอุบัติเหตุบ้าง ทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัวบ้าง
เพื่อนร่วมงานบ้าง ทำให้ไม่มีความสงบสุขในชีวิต
แต่ถ้าหากเรารู้ตั้งแต่แรกว่ามีเหตุการณ์ไม่ดีในชีวิตประจำวัน
เราก็ทำบุญแผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรโดยทันที เรื่องร้ายก็จะคลายกลายเป็นดี
คนโบราณจึงบอกว่า ถ้ามีเรื่องไม่ดีก็ให้ทำบุญ แต่คนในปัจจุบันนี้มักจะมีความเชื่อที่แตกต่างออกไป
โดยไปรดน้ำมนต์ ทำพิธีต่อดวงชะตา ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้ากรรมนายเวรเลย
เขาต้องการบุญก็ไม่ให้เขา แล้วเขาจะได้อะไร? เมื่อเขาไม่เคยได้รับส่วนบุญเลย
เขาก็มาทวงเราบ่อย ๆ ทำให้เกิดความไม่ดีขี้นในชีวิตเราบ่อย ๆ เพื่อบอกเพื่อเตือนให้เราทำบุญให้เขา
แต่เราก็ยังไม่รู้อีก แล้วชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไร?
หากเจ้ากรรมนายเวรไม่ได้เป็นดวงจิตวิญญาณ
ก็มาเป็นมนุษย์ ซึ่งอาจจะเป็นลูกของเรา พี่น้อง เพื่อนร่วมห้องเรียน
เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน เขาก็จะมาทวงเอาของ ๆ เขาที่เราเคยติดค้างเขาไว้
ถ้าเป็นลูกที่มาทวงหนี้ ก็จะทำให้พ่อแม่ต้องเสียเงินเสียทองตั้งแต่อยู่ในท้อง
พอเกิดมาก็เป็นโรคทำให้พ่อแม่ต้องเสียทั้งเงินรักษา และเสียใจเพราะความเป็นห่วงเป็นใย
ถ้าเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงานเขาก็มาทำให้ชีวิตเรามีความเสียหาย
แต่ถ้าหากเราเป็นเจ้าหนี้แล้วเขามาใช้หนี้เรา
ลูกเราเมื่อเกิดมาก็เลี้ยงง่าย และมาทำให้เรามีความสุขใจ ภูมิใจ มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย
ๆ ถ้าเป็นเพื่อนก็เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ เป็นมิตรที่จริงใจและเป็นที่พึ่งได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
ถ้าเรารู้ว่าเราควรใช้หนี้
เราก็จะใช้หนี้อย่างสบายใจเพราะเราไปหยิบยืมเขามา
ถ้าเรารู้ว่าเรามาทวงหนี้ ถ้าเราใจดีและเข้าใจความรู้สึกของลูกหนี้
เราก็มีเมตตาจิตยกหนี้ให้ คือการอภัย อโหสิกรรมที่เคยล่วงเกินกันไว้
แล้วเราก็จะมีแต่ความสุขกาย สบายใจ
|