ตัวเราต้องอาบน้ำทั้งตอนเช้า
และก่อนนอนเพื่อให้ตัวเองสะอาด แล้วตัวเราแท้จริงแล้วสะอาดหรือไม่?
ถ้าตัวเราสะอาดแล้ว เราคงไม่ต้องอาบน้ำทุกวัน คงไม่ต้องล้างสิ่งสกปรกออกไป
ถ้าตัวเราไม่เหม็นก็คงไม่ต้องพึ่งน้ำอบ น้ำหอม สเปรย์ดับกลิ่น แต่แท้จริงแล้วตัวเราไม่สะอาด
อีกทั้งสกปรกทั้งเช้าทั้งเย็นอีกด้วย
ตัวเราเป็นที่หมักหมมสิ่งสกปรกทั้งหลายแล้วถ่ายออกมาเป็นอุจจาระและปัสสาวะ
ถ้าหากร่างกายเราสามารถผลิตสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกมาได้แล้ว ร่างกายเราก็สกปรกยิ่งกว่าเสียอีก
แต่คนเรามักจะลืมไปว่าตัวเองสกปรก
บางคนสกปรกแค่กายยังไม่พอ ยังมีจิตใจที่สกปรกเสียอีก มีละโมบโลภมาก
มีโมโหโกรธา มีความลุ่มหลง เร่าร้อน อีกทั้งยังหลงผิดอีก
กายเราสกปรกยังสามารถชำระล้างให้สะอาดได้ชั่วคราว
แต่ถ้าใจสกปรกแล้วไม่รู้จักทำความสะอาดจิตใจ ก็จะมีจิตใจที่สกปรก เหม็นหมักหมมจนเน่าไปในที่สุด
เมื่อเราทราบแล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของสกปรกแต่ชำระให้สะอาดได้
เราก็เลือกว่าเราจะทำให้มันสะอาดเสียแต่ตอนนี้หรือจะปล่อยปละละเลยให้มันสกปรกตลอดไป
หรือจะหลอกคนอื่นว่ามันสะอาดโดยการแกล้งทำตัวเป็นคนดี แต่จริง ๆ แล้ว
จิตใจมันสกปรกเสียยิ่งกระไร สิ่งเหล่านี้ก็แล้วแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของร่างและจิตจะไม่สนใจหรือคิดจัดการทำให้สะอาดโดยทันที
มนุษย์จึงสามารถที่จะแต่งตัว
ตบแต่งหลอกตาคนอื่นว่าตัวดี ตัวงาม แต่ข้างในไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงจิตใจได้ว่าขาวสะอาด
หรือดำสกปรกเพียงใด ดังนั้นเมื่อพบใครอย่าเอาจิตไปจับกับกายภายนอกของเขา
จงดูให้ลึกถึงจิตใจของเขาแล้วใช้ดุลยพินิจพิจารณาโดยละเอียด เพราะจิตใจมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง
|