ค้นหาในเว็บไซต์ :

21 หมวดเบ็ดเตล็ด - MISCELLANEOUS

๑. มตฺตาสุขปริจฺจาคา 
ปสฺเส เจ วิปุลํ สุขํ 
จเช มตฺตาสุขํ ธีโร 
สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ ฯ ๒๙๐ ฯ
 


ถ้าเห็นว่า จะได้สุขอันยิ่งใหญ่ 
ด้วยการสละสุขเล็กๆน้อยๆ 
นักปราชญ์ก็ควรสละสุขเล็กน้อย 
เพื่อเห็นแก่สุขอันยิ่งใหญ่

If fy giving up a slight happiness 
One may behold a greater one, 
Let the wise man renounce the lesser, 
Having regard to the greater.



๒. ปรทุกฺขูปธาเนน 
โย อตฺตโน สุขมิจฺฉติ 
เวรสํสคฺคสํสฏฺโฐ 
เวรา โส น ปริมุจฺจติ ฯ ๒๙๑ ฯ


ผู้ใดปรารถนาสุขเพื่อตน 
โดยการก่อทุกข์ให้คนอื่น 
ผู้นั้นมักเกี่ยวพันด้วยเวรไม่รู้สิ้น 
ไม่มีทางพ้นทางเวรไปได้


Whosoever wishes his own happiness 
Yet inflicts suffering on others- 
He is not free from hatred, 
Entangled in the tangles of anger.



๓. ยํ หิ กิจฺจํ ตทปวิทฺธํ 
อกิจฺจํ ปน กยีรติ 
อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ 
เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา ฯ ๒๙๒ ฯ


สิ่งที่ควรทำไม่ทำ 
กลับทำสิ่งที่ไม่ควรทำ 
อาสวะย่อมเจริญแก่พวกเขา 
ผู้ถือตัวและมัวเมาประมาท


What ought to be done is left undone; 
What ought not to be done is done, 
For those who are naughty and heedless 
Corruptions greatly progress.



๔. เยสญฺจ สุสมารทฺธา 
นิจฺจํ กายคตา สติ 
อกิจฺจํ เต น เสวนฺติ 
กิจฺเจ สาตจฺจการิโน 
สตานํ สมฺปชานานํ 
อฏฺฐํ คจฺฉนฺติ อาสวา ฯ ๒๙๓ ฯ


ส่วนชนเหล่าใด เจริญสติในกายเป็นนิตย์ 
ไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ทำเฉพาะสิ่งที่ควรทำเสมอ 
สำหรับชนผู้มีสติ สัมปชัญญะพร้อมมูลเหล่านั้น 
อาสวะมีแต่จะหมดไป


Those who develop well mindfulness of the body, 
who never do what ought not to be done, 
And ever do what ought to be done- 
of those mindful and reflective ones 
Defilements come to extinction.



๕. มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา 
ราชาโน เทฺว จ ขตฺติเย 
รฏฺฐํ สานุจรํ หนฺตฺวา 
อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ ฯ ๒๙๔ ฯ


พราหมณ์ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา 
ฆ่าขัตติยราชอีกสององค์ 
ทำลายรัฐ พร้อมทั้งผู้ครองรัฐเสียแล้ว 
ย่อมสัญจรไป อย่างไร้ทุกข์


Having slain mother and father, 
And two warrior kings, 
Having destroyed a country, 
With its governor, 
Ungrieving goes a brahmana



๖. มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา 
ราชาโน เทฺว จ โสตฺถิเย 
เวยฺยคฺฆปญฺจมํ หนฺตฺวา 
อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ ฯ ๒๙๕ ฯ


พราหมณ์ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา 
ฆ่ากษัตริย์ ผู้คงแก่เรียนอีกสององค์ 
ทำลายทางเดินห้าสายของพยัคฆ์ร้าย 
ย่อมสัญจรไป อย่างปลอดภัย


Having slain mother and father, 
And two learned kings, 
Having destroyed the five ways of a tiger, 
Scatheless goes the brahmana.



๗. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ ฯ ๒๙๖ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้รำลึกถึงพระพุทธคุณ 
เป็นนิจศีล ทั้งกลางวันกลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ


Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Who ever day and night 
Recollect the Buddha's virtues.



๘. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
นิจฺจํ ธมฺมคตา สติ ฯ ๒๙๗ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้รำลึกถึงพระธรรมคุณ 
เป็นนิจศีลทั้งกลางวันกลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ


Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Who ever day and night 
Recollect the Dharma's virtues.



๙. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
สทา สงฺฆคตา สติ ฯ ๒๙๘ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้ระลึกถึงพระสังฆคุณ 
เป็นนิจศีลทั้งกลางวันกลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ


Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Who ever day and night 
Recollect the Sangha's virtues.



๑๐. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
สทา กายคตา สติ ฯ ๒๙๙ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้รำลึกถึงสภาพเป็นจริงของร่างกาย 
เป็นนิจศีลทั้งกลางวันกลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ

Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Who ever day and night 
Recollect the body's nature.



๑๑. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
อหึสาย รโต มโน ฯ ๓๐๐ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้มีใจยินดีในความไม่เบียดเบียน 
เป็นนิจศีลทั้งกลางวันกลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ

Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Whose mind ever day and night 
Takes delight in harmlessness.



๑๒. สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ 
สทา โคตมสาวกา 
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ 
ภาวนาย รโต มโน ฯ ๓๐๑ ฯ


พระสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า 
ผู้มีใจยินดีในภาวนา 
เป็นนิจศีลทั้งกลางวัน กลางคืน 
ตื่นดีแล้วเสมอ

Ever well awake 
Are the disciples of Gotama 
Whose mind ever day and night 
Takes delight in meditation.



๑๓. ทุปฺปพฺพชฺชํ ทุรภิรมํ 
ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา 
ทุกฺโขสมานสํวาโส 
ทุกฺขานุปติตทฺธคู 
ตสฺมา น จทฺธคู สิยา 
น จ ทุกฺขานุปติโต สิยา ฯ ๓๐๒ ฯ


การสละโลกียวิสัยออกบวช ก็ยาก 
การจะยินดีในเพศบรรพชิต ก็ยาก 
การครองเรือนไม่ดี เป็นทุกข์ 
การอยู่ร่วมกับผู้ไม่เสมอกัน ก็เป็นทุกข์ 
ท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏ ก็เป็นทุกข์ 
เพราะฉะนั้น ไม่ควรท่องเที่ยวในสังสารวัฏ 
และไม่ควรแส่หาความทุกข์ใส่ตน

Hard is th 'going forth'. 
Hard is it to delight therein. 
Hard is household life. 
Ill is association with unequals. 
Ill also is to wander in Samsara. 
Be therefore no more a wanderer 
Nor be a pursuer of suffering.



๑๔. สทฺโธ สีเลน สมฺปนฺโน 
ยโสโภคสมปฺปิโต 
ยํ ยํ ปเทสํ ภชติ 
ตตฺถ ตตฺเถว ปูชิโต ฯ ๓๐๓ ฯ


ผู้มีศรัทธา สมบูรณ์ด้วยศีล 
เพียบพร้อมด้วยยศและโภคทรัพย์ 
ไปประเทศใดๆ ย่อมได้รับความนับถือ 
ในประเทศนั้นๆ

He who is full of faith and virtue. 
Possessed of repute and wealth- 
He is hanoured everywhere. 
In whatever land he travels.


๑๕. ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ 
หิมวนฺโต ว ปพฺพโต 
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ 
รตฺติขิตฺตา ยถา สรา ฯ ๓๐๔ ฯ


คนดี ย่อมปรากฎเด่น 
เหมือนภูเขาหิมพานต์ 
คนไม่ดี ถึงอยู่ใกล้ ก็ไม่ปรากฎ 
เหมือนลูกศรที่เขายิงไปในราตรี

The good shine from far away 
Just as the Himalayan peaks. 
The wicked are not seen, though near, 
Just as an arrow shot at night.


ที่มา : หนังสือพุทธวจนในธรรมบท โดย อ.เสถียรพงศ์ วรรณปก




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย